ว่านกับการรักษาความบริสุทธ์ของวิชา.. วิชาไม่กี่ชนิดที่มีเกราะรักษาหลายชั้น

วงการว่านในปัจจุบันไม่ได้เลี้ยงว่านแบบว่านดังแต่ก่อน ปัจจุบันเน้นเลี้ยงว่านแบบไม้ประดับ ว่านจึงให้ผลในมิติเพียงไม้ประดับเท่านั้น!!  สมัยก่อนนั้นว่านมีผลชะงัดทั้งทางยาและทางจิตศาสตร์ เพราะหลักคิด การเลี้ยง การสืบทอดสายพันธ์มันแตกต่างกันมากกับยุคปัจจุบันครับ…เซียนว่านยุคเก่าจะมองว่า ว่านปัจจุบันมันไม่บริสุทธิ์เสียแล้ว ต้นสายพันธ์มันเพี้ยนหมดแล้ว พอมันเพี้ยนคนที่หวังผลกับว่านแบบว่าน ก็ผิดหวัง แล้วก็โทษว่าโบราณสอนกันมาผิด ไม่เห็นดีดังที่ตำราว่าไว้เลย…

ทำไมคนโบราณถึงหวงวิชา

ต้องทำความเข้าใจว่าวิชามีระดับของการสอนหรือการรักษาอยู่ ๓ ระดับด้วยกัน กล่าวคือ

ตำราคุณลักษณะว่านและวิธีปลูกว่านโดยหลวงบุเรศบำรุงการ (นายเลื่อน กัณหะกาญจนะ) เล่มนี้เป็นของ อ.นพคุณ คุมา ศิษย์สายอาจารย์ว่านยุคเก่าคือ ป้าบุญช่วย ใจยุติธรรม (ป้าบุญช่วย คือผู้อยู่เบื้องหลัง ตำราชุมนุมว่านยาและไม้มงคล โดย บัว ปากช่อง และตำรา ว่านและ-ไม้มงคล 304 ชนิด โดย พรานเฒ่า ต้นว่านในรูปส่วนมากเป็นว่านสายป้าช่วยครับ)

 

๑. วิชาสาธารณะ มีประโยชน์มาก มีโทษน้อย วิชาเหล่านี้คือวิชาที่เผยแพร่ได้ทั่วไป วิชาประเภทนี้ตรงไปตรงมาไม่ซับซ้อน เข้าใจคลาดเคลื่อนยาก มีโทษน้อย คนจึงไม่หวงกัน เป็นวิชาที่คนมักเรียนหรือรู้กันทั่วไป ก็วิชาที่หาอ่านได้ในหนังสือหรือ Internet ทั่วไปแหละครับ พวกวิชาในการศึกษาภาคบังคับพื้นฐานนั่นแหละครับ…

๒. วิชากึ่งเปิดเผย เป็นวิชาที่เปิดเผยได้บ้างแต่ไม่ทั้งหมด มีประโยชน์มาก แต่แฝงด้วยโทษพอสมควร ไม่มากนักหากไม่ลงลึก แต่เมื่อไม่ลงลึกก็จะไม่เด็ดขาดเท่าไร…..วิชาเหล่านี้ได้แก่วิชาเชิงวิชาชีพ เช่น วิชาวิศวกรรม วิชาสมุนไพร วิชาแพทย์ เป็นต้น (ปรุงยาผิด ให้ยาผิด บางทีอาจหายช้า/ไม่หาย หรืออาจได้รับอาการข้างเคียงของยา เป็นต้น)

๓. วิชาลับ กลุ่มนี้จำต้องเรียนหรือสืบกันในเฉพาะกลุ่ม เพราะนอกจากจะมีประโยชน์มาก อาจมีโทษมากตามมา หรือเรียนยาก เข้าใจเข้าถึงยาก ถ้าไม่มีครูชี้แนะโดยตลอดจะเข้าใจหรือทำผิดเพี้ยน บางคนทำไปอีกทาง บางคนทำไม่ได้แล้วก็จะพาลว่าวิชาเหล่านั้นไม่มีจริง เช่น วิชาว่าน วิชาไสยศาสตร์ วิชาทางจิตต่างๆ เป็นต้น

ลายมือจดในตำราคุณลักษณะว่านและวิธีปลูกว่านโดยหลวงบุเรศบำรุงการ (นายเลื่อน กัณหะกาญจนะ) ที่ระบุอันตรายของว่านโพลง

การหวงวิชาของคนโบราณส่วนมากจึงหวงในวิชาที่ ๒ และ วิชาที่ ๓ ความจริงแล้วมิใช่การหวง แต่เป็นการรักษาความบริสุทธิ์ของวิชาไม่ให้ผิดเพี้ยนมากกว่า จึงเผยแพร่ให้เฉพาะกลุ่มศิษย์ในสำนัก ไม่ผิดเพี้ยนแปลว่านอกจากทำวิชาได้ผลดังคำบอกแล้วยังไม่เพี้ยนไปทางอื่น (ธาตุไฟแตก ธาตุมารเข้าแทรก เป็นปอบ ฯลฯ) ตลอดจนรู้ทางแก้หากมีผลไม่ดีในการเรียนวิชา เช่น วิชากุลฑาลิณีโยคะ อาจเกิดงูไฟกำเริบ ต้องรู้วิธีคุม หรือวิธีแก้ เป็นต้น อย่างวิชาว่านก็อย่าง เช่น ช่อว่านโพลง ต้องรู้วิธีเลี้ยง การกำราบ การคุม การใช้ ให้ครบ ไม่อย่างนั้นโพลงจะเข้าตัวเป็นปอบได้…

การบังวิชาของคนโบราณ

มีหลากหลายวิธีการบัง การปิดบังวิชาไว้แบ่งเป็นแบบต่างๆ ได้แก่

  • การบังด้วยการจดแบบต่างๆ เป็นการตั้งใจจริงๆ เช่น จดสลับหน้า ,กลตัวเลข ,ตัวข่มตัวสับ,กลกุ้งนอนเฟย ฯลฯ โดยครูจะคอยสอนให้เห็นวิธีการบังวิชาในแบบต่างๆของสำนัก ใครไม่ได้ยกเรียนหรือใจร้อนเรียนไม่จบก็หมดสิทธิ์ที่จะรู้
“กุ้งนอนเฟย” เป็นชื่อของระบบการเขียนของอักษรล้านนาอีกประเภทหนึ่ง อักษรที่ใช้เขียน ก็ตรงตัว อ่านได้ความ เพียงแต่ข้อความที่ใช้สื่อสารนั้นซ่อนอยู่ในกลุ่มอักษรตัวอื่นๆ ดุจตัวกุ้งที่อาศัยอยู่ในเฟย (เฟยหมายถึงพุ่มไม้ พุ่มหญ้า)
  • การจดแยกคนละเล่ม เช่น เล่มหนึ่งคือสูตรยา ลักษณะต้นว่านยา เล่มหนึ่งฝอยหรือวิธีปรุง เล่มหนึ่งคาถากำกับ เป็นต้น
  • การบังจากการที่รู้และเห็น จำได้กันในสำนัก เลยไม่ต้องจดเพราะเข้าใจตรงกัน นั่นคือถ้านอกสำนักจะไม่รู้ เช่น ว่านกำแพงเจ็ดชั้น ต้นที่ทำยาบำรุง กับต้นที่ใช้ทางไสยศาสตร์(กลุ่มทิพย์เนตร) จะเป็นคนละต้นกัน (ในตำราว่านบางเล่มจดรวมเป็นต้นเดียวกัน) คล้ายๆกับว่านนางกวักที่จดสองต้นรวมกัน คือต้นหัวหอมกับต้นขมิ้น เป็นต้น
  • วิชาศิษย์-วิชาครู บางคาถาบางวิธีใช้ ระดับศิษย์ธรรมดา ศิษย์เอก และระดับครู ก็ต่างกันไป ตามคุณสมบัติและความสามารถของแต่ละคน คนไม่รู้ได้ตำราระดับอาจารย์มาคุยกับตำราระดับศิษย์ก็คุยกันคนละเรื่อง…

วิชาว่าน มีการบังวิชาหลายชั้นเนื่องจาก

ตำราว่านเชิงวิเคราะห์สังเคราะห์ น่าจะเป็นเพียงสองเล่มในปัจจุบัน ที่เรียบเรียงจาก เซียนว่านระดับอาจารย์ ที่มีการเรียนว่านจริงๆจังๆเป็นระบบ มีว่านตัวเองจริงๆ มีครูสอนเป็นอาจารย์ว่านจริงๆ กลั่นจากประสบการณ์ด้านว่านจริงๆเป็นเวลานาน โดยยังคงมีข้อมูลอ้างอิงตำราว่านเก่าๆครบถ้วน ที่สำคัญอาจารย์ว่านทั้งสองยังมีชีวิตอยู่ และยังมีว่านเก่าว่านแท้อยู่กับตัว
  • ตำราว่านสมัยก่อนปะปนเป็นกระสายในตำราไสยศาสตร์ ดังนั้นคนเรียนว่านจะต้องเรียนไสยควบคู่ด้วย คนเรียนครึ่งๆกลางๆก็ได้วิชาว่านไม่ครบ
  • ตำราว่านยุคสร้างกบิลว่านแล้วคือรวบรวมเป็นชุดวิชาว่านเฉพาะแล้ว ยังอ่านทำความเข้าใจยาก เช่น
    • ว่านตัวหนึ่งอ้างอิงลักษณะว่านหรือพืชอีกตัวหนึ่ง คนไม่รู้ครบก็จะงงดังอ่านลายแทง ทำให้ตีความกันผิดๆไป
    • คาถาหรือเนื้อหาไม่ครบหรือสะกดผิด ทั้งที่ตั้งใจผิดจากการบังวิชา ไม่ก็คัดลอกกันผิด (คนไม่ยกเรียนก็จะพลาดตรงนี้ไป)
    • การคัดลอกบางทีคัดลอกแบบสั้นๆ เพราะเห็นและรู้กันในสำนัก แต่บางต้น บรรยายโดยรวมชื่อพ้องกันแต่ต่างต้นมาไว้ที่เดียวกัน….เข้าใจว่าลอกผิดในยุคหลังไม่ก็ตั้งใจให้ผิด เพราะคนในสำนักรู้อยู่แล้ว
  • ในสำนักมีต้นว่านประจำอยู่แล้ว ต้นไหนใช้อย่างไร ใช้กันเป็นอยู่แล้ว ตำราว่านคือสิ่งกันลืม จดพลาดบ้าง ขาดบ้างเกินบ้าง รู้กันอยู่แล้วในหมู่คนเรียนหรือคนใช้จริง… คนไม่ได้ยกเรียนมาถึงตรงนี้ก็งงไป…
  • ว่านใช้ในสำนักคือว่าน “คัด” ที่คัดสายพันธ์เอาสายพันธ์ชั้นดีมาใช้ทั้งทางยาและทางไสยศาสตร์ การคัดนั้นบางต้นใช้เวลาทั้งชีวิตในการคัดสรรค์ ดังนั้น “นอกสำนัก” แม้หาว่านป่าเข้าตามตำราที่จด ว่านที่ใช้ก็ไม่ได้ผลเท่าว่านเก่าที่สืบสายกันมา เหมือนว่านแม่ทัพ คนไม่รู้ก็จับต้นที่คล้ายๆ มาขายมาใช้ แต่แท้จริงแม่ทัพกลิ่นต้องเป็นไพลชัดเจน หรือว่านเสน่ห์จันทน์ในยุคหลังที่เอาว่านป่า หรือว่านเมืองนอกมาปน กลิ่นมันไม่ใช่ ไม่ถึงเสน่ห์จันทน์ต้นเดิม เป็นต้น
ว่านแม่ทัพที่เป็นกลุ่มขิงแห้งชนิดหนึ่ง ที่ประเด็นอยู่ที่กลิ่น กลิ่นต้องฉุนชัดเจนแบบไพลไม่ใช่กลิ่นอ่อนรสอ่อน หรือกลิ่นแบบอื่น ต้นในรูปเป็นของ อ.ณรงค์ศักดิ์ ค้านอธรรม ครับ

สรุป

จึงรวมความได้ว่า วิชาว่าน นั้นมีเกราะรักษาความบริสุทธิ์หลายชั้น (โดยเฉพาะในมิติสายพันธ์ว่านคัดสืบทอด) และแน่นอนความเพี้ยนก็มากด้วยเป็นเงาตามตัว แต่สุดท้ายมันวัดกันที่ผลได้ชัดเจน เหมือนว่านปัดตลอดตัวผู้ หรือว่านกวักพุทธเจ้าหลวง ที่มีสายพันธ์และวิธีการเลี้ยงเฉพาะ จึงให้คุณแตกต่างอย่างชัดเจนในคนที่ได้ต้นป่าที่มีลักษณะคล้ายไปเลี้ยง….

ดังนั้น ในยุคที่ครูว่านเก่งๆยังมีตัวตน ตำราเดินได้ยังมีอยู่ หากจะเรียนวิชาว่านและอยากจะเลี้ยงว่านแบบหวังผลในระดับว่าน ไม่ได้หวังผลในระดับ “ไม้ประดับ” ก็ควรเข้าหาครูที่เก่งจริงๆ ที่รู้จริงๆ จะได้ไม่เสียเวลา และหลงทางว่านครับ…

และอยากจะบอกคนเล่นว่านยุคเก่าที่มีว่านเก่าว่าให้ภูมิใจและเก็บว่านเก่านอกกระแสของตัวเองไว้ให้ดีครับ ในภายภาคหน้ามันจะเป็นสิ่งที่กล่าวถึงและแสวงหากันมาก… เก็บว่านต้นแท้ให้ลูกให้หลานนะครับ…อย่าไปแห่วิ่งตามไม้กระแสพวกไม้ด่างไม้ประดับ แล้วทิ้งของดีประจำชาติอะไรกับเขาเลย…

อรรถ

๓๐ มิ.ย.๖๔

อ้างอิง

https://www.facebook.com/Lanna.UKM/photos/a.401555203324446/1060048337475126

https://farmssb.com/superstition/