กระชายขาว​ หรือ​ กระชายเหลือง กันแน่ ?

กระชายขาว​ หรือ​ กระชายเหลือง กันแน่ ?

กระชายขาว​ หรือ​กระชายเหลือง ? เรียกกันผิดแล้วนะ….จริงๆ​กระชายแกงบ้านเราเรียกกระชายเหลืองนะ…ไอ้กระชายขาวคือว่านเพชรกลับตัวเมีย… (1)

กระชายขาวต้นเรื่องแรก ๆ ในท้องตลาด ​เขาบอกว่าเป็นการพัฒนาสายพันธ์เอาไว้ทำยาขายเฉพาะบริษัท…ประมาณว่ามีสารสำคัญเยอะกว่า (คล้ายกับ “ขมิ้นเขาวง” มั้งที่เป็นขมิ้นคัดสายพันธ์ แต่ประเด็นไม่ต้องไปตามหาต้นนั้นหรอกต้นบ้านธรรมดาก็ใช้ได้…) (1)

มันก็เพี้ยนไปตามธรรมดาโลก…แค่อยากบอกข้อมูลให้โลกรู้…เรื่องนี้สะท้อนความผิดเพี้ยนในวงการว่านและต้นไม้ในเรื่องชื่อ…ที่ผิดกันได้เรื่อย ๆ​ ตามเหตุปัจจัยต่าง ๆ โดยเฉพาะความเข้าใจผิด พอนานไปก็ไม่เห็นเค้าเดิม (1)

กระชายเหลือง

กระชายเหลือง (Boesenbergia rotunda (L.) Mansf.) กระชายแกง ปัจจุบันเรียกเพี้ยนเป็นกระชายขาว สรรพคุณเยอะมาก โดยเฉพาะการฟื้นฟูร่างกาย มีข้อมูลว่าระดับเดียวกับโสมเลยทีเดียว (1)

กระชายเหลือง (Boesenbergia rotunda (L.) Mansf.) หรือ กระชายแกง

สรรพคุณ

ตำรายาไทย: เหง้า  ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด แก้ปวดมวนท้อง ขับลม ช่วยให้กระเพาะ และลำไส้เคลื่อนไหวดีขึ้น แก้โรคอันเกิดในปาก แก้มุตกิด แก้ลมอันบังเกิดแต่กองหทัยวาตะ แก้ปากเปื่อย ปากแห้ง ปากแตกเป็นแผล แก้ปวดมวนในท้อง แก้บิดมูกเลือด แก้ปวดเบ่ง รักษาลำไส้ใหญ่อักเสบ บำรุงกำลัง ช่วยเจริญอาหาร ขับระดูขาว แก้ใจสั่น ราก (นมกระชาย) แก้กามตายด้าน ทำให้กระชุ่มกระชวย บำรุงความกำหนัด มีสรรพคุณคล้ายโสม หมอโบราณเรียกว่า “โสมไทย” หัวและราก ขับปัสสาวะ แก้กระษัย เบาเหลือง แดง เจ็บปวดบั้นเอว บำรุงกำหนัด บำรุงหัวใจ บำรุงกำลัง แก้ใจสั่นหวิว ขับปัสสาวะ หัวใช้เผาไฟฝนรับประทานกับน้ำปูนใส เป็นยาแก้บิด แก้โรคบังเกิดในปาก แก้มุตะกิต (2)

บัญชียาจากสมุนไพร: ที่มีการใช้ตามองค์ความรู้ดั้งเดิม ตามประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ระบุตำรับ “ยาเลือดงาม” มีส่วนประกอบของเหง้ากระชายร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ แก้มุตกิด (2)

ตำรายาแผนโบราณของไทย: มีการใช้กระชายใน “พิกัดตรีกาลพิษ” คือการจำกัดจำนวนตัวยาแก้พิษตามกาลเวลา 3 อย่าง มีรากกะเพราแดง เหง้าข่า และหัวกระชาย สรรพคุณบำรุงธาตุ บำรุงความกำหนัด แก้ไข้สันนิบาต แก้เลือด เสมหะ แก้กามตายด้าน (2)

ตำรายาพื้นบ้านนครราชสีมา: ใช้เหง้า แก้โรคบิด โดยนำเหง้าย่างไฟให้สุกแล้วโขลกให้ละเอียดผสมกับน้ำปูนใส รับประทานทั้งน้ำและเนื้อ ครั้งละครึ่งแก้ว เช้า เย็น และใช้เหง้าแก้กลากเกลื้อน โดยนำเหง้ามาโขลกให้ละเอียดผสมกับเหล้าโรงทาบริเวณที่เป็นแผล (2)

ตำรายาพื้นบ้านล้านนา: ใช้เหง้า รักษาโรคทางดินปัสสาวะอักเสบ กลากเกลื้อน ท้องอืดเฟ้อ (2)

ฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัส covid 19  (Corona virus disease 2019): ฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ SARS-CoV-2 ในหลอดทดลอง ของสารสกัดเอทานอล และสารบริสุทธิ์ panduratin A ที่แยกได้จากเหง้ากระชาย ผลการวิจัยสมุนไพรไทยจำนวน 122 ชนิด ทดสอบแบบ Post-entry ด้วยวิธี High content imaging system โดยใช้ Vero E6 cell พบว่ากระชายออกฤทธิ์ดีที่สุดในการยับยั้งเชื้อ โดยสารสกัดเหง้ากระชาย และ panduratin A (สารบริสุทธิ์ที่แยกได้จากเหง้ากระชาย) มีค่าการยับยั้งเชื้อได้ร้อยละ 50 (IC50) เท่ากับ 3.62 μg/ml และ 0.81 μM ตามลำดับ  (CC50 เท่ากับ 28.06 μg/ml และ 14.71 μM ตามลำดับ) ยามาตรฐาน hydroxychloroquine ค่า IC50 เท่ากับ 5.08 μM (4)

การทดสอบด้วยวิธี Plaque inhibition assay พบว่าค่าความเข้มข้นของสารสกัดกระชาย และ panduratin A ในการยับยั้งเชื้อได้อย่างสมบูรณ์ เท่ากับ 12.5 μg/ml และ 5 μM ตามลำดับ  การทดสอบแบบ Pre-entry พบว่าสารสกัดกระชาย และ panduratin A  มีค่า IC50 เท่ากับ 20.42 μg/ml และ 5.30 μM ตามลำดับ (CC50 เท่ากับ>100 μg/ml และ 43.47 μM ตามลำดับ) โดยขนาดความเข้มข้นสำหรับ Pre-entry สูงกว่า Post-entry ประมาณ 5 และ 6 เท่า ตามลำดับ ยามาตรฐาน hydroxychloroquine ค่า IC50 เท่ากับ 8.07 μM สำหรับสมุนไพรอีก 2 ชนิด ที่มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อได้ดี รองจากกระชายคือ ฟ้าทะลายโจร และขิง (4)

รูปนี้แสดงชื่อหัวข้อวิจัยนะครับ…ใครอ่านตามไปอ่าน Full paper สามารถไปหาอ่านกันได้เลยครับ

ผลการทดสอบสาร panduratin A จากกระชาย เปรียบเทียบผลกับยามาตรฐาน remdesivir ทดสอบแบบ Post-entry โดยใช้ Vero E6 cell พบว่า panduratin A เมื่อทดสอบด้วยวิธี High content imaging system และ Plaque inhibition assay ตามลำดับ สามารถยับยั้งเชื้อได้โดยมีค่า IC50 เท่ากับ 0.81 และ 0.078 μM ตามลำดับ ยา remdesivir มีค่า IC50 เท่ากับ 2.71 และ 2.65 μM ตามลำดับ ผลการทดสอบเมื่อใช้ Calu-3 ซึ่งเป็นเซลล์เยื่อบุทางเดินหายใจมนุษย์ พบว่า panduratin A สามารถยับยั้งเชื้อได้โดยมีค่า IC50 เท่ากับ 2.04 และ 0.53 μM ตามลำดับ ยา remdesivir เท่ากับ 0.043 และ 0.086 μM ตามลำดับ (4)

โดยสรุปสาร panduratin A จากเหง้ากระชาย ซึ่งเป็นสารในกลุ่ม prenylated cyclohexenyl chalcone ออกฤทธิ์ดีในการยับยั้งเชื้อ SARS-CoV-2(COVID 19) ในหลอดทดลอง ทั้งการยับยั้งเขื้อไวรัสก่อนเข้าสู่เซลล์ (Pre-entry) หรือการป้องกันการติดเชื้อ และการยับยั้งไวรัสภายหลังจากไวรัสเข้าสู่เซลล์แล้ว (Post-entry) หรือการรักษาภายหลังการติดเชื้อแล้ว ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และต้านการอักเสบได้ดี ที่มีรายงานในงานวิจัยหลายฉบับ ดังนั้นสาร panduratin A จากกระชาย จึงมีศักยภาพในการนำไปวิจัยต่อในสัตว์ทดลอง และมนุษย์ เพื่อนำมาใช้เป็นยาเดี่ยว หรือใช้รักษาร่วมกับยาแผนปัจจุบัน ในการต้านไวรัส SARS-CoV-2 เนื่องจากป็นพืชที่ใช้ในการประกอบอาหาร พบได้ทั่วไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และหาได้ง่าย ราคาไม่แพง (4)

กระชายขาว

กระชายขาว (Boesenbergia thorelii (Gagnep.) Loes.) หรือ ว่านเพชรกลับ ที่ใช้เรียกทางสมุนไพร ต้นนี้ที่เรียก “กระชายขาว” เพราะดอกเป็นดอกกระชาย เนื้อในสีขาว ต้นนี้คือสุดยอดสมุนไพรของชาวม้งครับ…สมัยก่อนหวงกันขนาดเวลาขายต้องเอาหัวไปนึ่งก่อนขายเพื่อไม่ให้ใครปลูกได้ (1)

กระชายขาว (Boesenbergia thorelii (Gagnep.) Loes.) หรือ ว่านเพชรกลับ (กระชายขาวม้ง) จากวัดใหญ่ พิษณุโลก สมัยก่อนชาวไทยม้งจะหวงแหนมาก เวลาเอามาขายจะนึ่งหัวก่อนทำให้ปลูกไม่ขึ้น

หัวใหญ่สุดในกลุ่มประมาณนิ้วหัวแม่มือ เนื้อในสีขาว เป็นต้นที่พบได้มากที่สุด ใช้เป็นสมุนไพร บำรุงร่างกายให้แข็งแรง กระปรี้กระเปร่า และความจำดี เมื่อแรกงอกเมื่อต้นยังไม่แก่ ใต้ใบจะแดงเรื่อๆ ต่อมาจะจางไป หลังใบอาจพบเส้นใบแดงเรื่อๆจาง ๆ (3)

ทางสมุนไพร หัวดองกับเหล้าขาวดื่มเป็นยาอายุวัฒนะ ใช้ด้านการบำรุงร่างกายให้แข็งแรง กระปรี้กระเปร่า และความจำดี (3)

สรุป

กระชายแกงแต่ไหนแต่ไรเรียกกระชายเหลืองครับ  ไอ้กระชายขาวคือเรียกโดยคนไม่รู้ว่ามันมีต้นกระชายขาวเฉพาะของเขาอยู่…และสรุปอีกว่า​ กระชายแกงบ้านเรานั่นคือตัวใช้รักษาโควิด… ดันมาเรียกกระชาวขาวให้ชาวบ้านคนเก่าคนแก่​หรือหมอสมุนไพรงง… (1)

เพิ่มเติมอีกว่าพืชในวงศ์กระชายในประเทศไทยมีเป็นสิบ ๆ ชนิด… เราตีกรอบแค่สี่ชนิดข้างต้นนะครับ… พอละ…  ถ้าไปเจอในป่าอะไรถ้าไม่แม่นจริงอย่าเอามาขายสุ่มสี่สุ่มห้านะครับ… มันบาป… สงสารคนกินเขา… ในงานวิจัยเขารับรองแค่ต้นกระชายแกงหรือกระชายเหลือง… ต้นอื่นๆพวกกระชายป่าทั้งหลาย​ อย่าพึ่งเอามาใช้​อย่ามาขายเลยครับ…. นี่คือความเป็นความตายของคนนะ… (1)

อ้างอิง

  1. https://www.facebook.com/groups/191877227543190/search/?q=%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2
  2. http://www.ananhosp.go.th/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3/3.1.4%20%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87/4%20%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87.html?fbclid=IwAR1F0GYb5n6cjm-eU9O5XW005QW3mKqb5na3Cx6fPhzXT0r4hmBfYS1JmBo
  3. https://www.baanlaesuan.com/plants/perennial/137452.html
  4. http://www.thaicrudedrug.com/main.php?action=viewpage&pid=3