พรมมิ บำรุงสมอง ป้องกันความจำเสื่อม

ข้อมูลเบื้องต้น

พรมมิ (Bacopa monnieri) เป็นพืชที่เติบโตในพื้นที่เปียกและเป็นแอ่งน้ำทั่วเอเชียใต้ พรมมิถูกใช้เป็นยาอายุรเวทเพื่อรักษาโรคต่างๆ รวมถึงความวิตกกังวล นอนไม่หลับ และปัญหาด้านความจำ

สารสำคัญ

สารสำคัญหลักๆที่ออกฤทธิ์ คือ สารในกลุ่ม Saponin glycoside (jujubogenin และ psuedojujubogenin glycosides) โดยสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ได้อย่างโดดเด่น คือ Bacoside I ซึ่งมีคุณสมบัติในการป้องกันระบบประสาท เพิ่มการรับรู้ กระต้นการสร้างเซลล์ประสาทใหม่

การศึกษาทางคลินิก

ณ ปัจจุบัน เราพบการศึกษามากมายหลายชิ้นที่แสดงให้เห็นว่า พรมมิ สามารถช่วยเพิ่มการทำงานของสมองและความตื่นตัว ยกตัวอย่างเช่น การศึกษาการวิเคราะห์อภิมาน (meta-analysis) ของพรมมิในมนุษย์พบว่า การรับประทาน สารสกัดพรมมิ ประมาณ 300 mg ต่อวัน สามารถเพิ่มการทำงานของสมอง (cognitive function) โดยเฉพาะความเร็วในการประมวลผลข้อมูลและการตอบสนอง

การรับประทาน สารสกัดพรมมิ โดยทั่วไปถือว่ามีความปลอดภัยมากครับ เราสามารถพบเห็นผลข้างเคียงเล็กน้อยในระบบทางเดินอาหารของผู้สูงอายุเมื่อกินพรมมิเป็นเวลานาน 3 เดือน เช่น อุจจาระบ่อยขึ้น, คลื่นไส้, และตะกริวหน้าท้อง เป็นต้น

พรมมิบำรุงสมองได้อย่างไร?

พรมมิสามารถเพิ่มจำนวนสารสื่อประสาทในสมองและลดการตายของสารสือ่ประสาทในสมองได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้พรมมิยังสามารถกระตุ้นการหลั่งและการเก็บสารสื่อประสาทในสมอง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น กลไกที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของพรมมิในการบำรุงสมองก็ คือ พรมมิช่วยขยายหลอดเลือดในสมองเพื่อเพิ่มเลือดไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้น

พรมมิสามารถป้องกันความจำเสื่อมได้อย่างไร?

พรมมิสามารถลดการรวมตัวกันของ amyloid beta (amyloid beta aggregation) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการก่อโรคความจำเสื่อม หรือ โรคอัลไซเมอร์ อีกหนึ่งกลไกของพรมมิในการป้องกันความจำเสื่อม คือ การต้านอนุมูลอิสระ (AchE) ซึ่งเป็นอนุมูลอิสระที่เข้าไปทำลายเซลล์ประสาทและสมอง ดังนั้นพรมมิจึงช่วยลดความเสื่อมและการตายของเซลล์ประสาทและสมอง ลดความเสี่ยงและป้องกันการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้

พรมมิสามารถลดภาวะซึมเศร้าได้อย่างไร?

พรมมิสามารถการสร้างสารสื่อประสาทและลดการตายของสารสื่อประสาทซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคซึมเศร้า

อ่านต่อได้ที่

 

ผู้เรียบเรียง: หมอก็อต คลินิกแพทย์แผนไทย ลำพูน (โฮงยาพรมธวิหารฐ์)

๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๔

——————————————————————————————-