ว่านสาวหลง หรือ ว่านฤาษีสร้าง หรือ ฤาษีผสม
ว่านนี้ท่านตีค่าไว้เท่าราคาทองคำหนัก ๔๐๐ ล้านบาททีเดียว เพราะเป็นว่านที่หวงแหนปิดมาแต่โบราณ บรรดาท่านผู้ทรงวิทยาคุณในทางเสน่ห์ หวงแหนปิดบัง ไม่ยอมเปิดเผยให้ใคร ๆ รู้จักว่านนี้ ฉะนั้นในปัจจุบันนี้จึงหาคนรู้จักแม้แต่ชื่อของว่านก็พากันงงโดยมาก
ลักษณะ
ใบเหมือนใบข่า แต่ปลายใบแหลมมาก มากกว่าใบข่า แต่หัวเหมือนหัวตะไคร้ รากเหมือนรากหญ้าคา หรือหัวคล้ายหญ้าชันกาด รากนั้นยาวมากเลื้อยไปตามผิวดิน ว่านนี้หายากมาก มีอยู่ทางจังหวัดกบินทรบุรี ดอกเป็นพวง ๆ เหมือนช่อพริกไทย ดอกสีเหลือง กลิ่นหอมมาก ว่านนี้มีกลิ่นทั้งที่ใบที่ต้นที่ราก มีดอกตลอดทั่วทั้งต้น
ประโยชน์
เป็นว่านทรงคุณค่าในทางเมตตามหานิยมอย่างสูงสุด หากได้ว่านชนิดแท้มาแล้ว เพียงเอารากมาฝนหรือบดเป็นผงผสมกับสีผึ้ง หรือแช่น้ำมันจันทน์ หรือเพียงแต่เอารากถือติดตัวไป ผู้คนทั้งปวงก็จะงงงวยหลงรักใคร่ผู้มีว่านหรือทาน้ำมันที่เข้าว่านจนหมดสิ้น ถ้าผู้ใดมีว่านนี้ปลูกไว้กับบ้านก็เป็นศิริมงคลเป็นยอดเสน่ห์แก่บ้านเรือน
เมื่อจะเอาหัวว่านนี้ผสมกับขี้ผึ้งสีปาก ให้เศกด้วยคาถาดังนี้ “มะอะอุ พุทธะสังมิ จิเจรุนิ นะชาลิติ ปิยังมะมะ” รวม ๗ ครั้ง
การปลูก
ว่านนี้ท่านกำหนดให้ปลูกได้เฉพาะในวันจันทร์วันเดียวเท่านั้น วันอื่น ๆ ท่านห้ามมิให้ปลูก ขณะปลูกให้หันหน้าไปทางตะวันออก แล้วจงอธิษฐานตามความประสงค์ของผู้ปลูกเถิด ดินที่ใช้ปลูกเอาดินเผาไฟแล้วทุบให้ละเอียดนำไปตากน้ำค้างทิ้งไว้คืนหนึ่งจึงเอามาเป็นดินปลูก เมื่อล้างกระถางจะปลูกสะอาดดีแล้ว นำดินที่เตรียมไว้ใส่ลงไปครึ่งกระถาง นำหัวว่านมาวางเอาดินกลบ และเกลี่ยให้ดินพอดีกับหัวว่าน น้ำที่ใช้รดเศกด้วย “อิติปิโสภควาถึงภควาติ” เสีย ๓ จบก่อน จึงนำมารดพอเปียกทั่ว
บทคัดลอกจาก “ตำราคุณลักษณะว่านและวิธีปลูกว่าน” โดย สมาคมพฤกษชาติแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
รวบรวมและเรียบเรียงโดย นายเลื่อน กัณหะกาญจนะ
เผยแพร่โดย ทีมงาน www.farmssb.com