สารบัญ: คลิ๊กเลือกอ่าน
5 อันดับ สมุนไพรเพิ่มประสิทธิภาพสมองและเพิ่มความจำ
ปัจจุบันความเครียดจากการทำงานอย่างหนัก และความเสื่อมของร่างกายที่เป็นไปตามกาลเวลาเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความอ่อนล้าให้กับสมอง ส่งผลให้เกิดผลเสียต่างๆตามมา เช่น ความสามารถในการเรียนรู้น้อยลง จำอะไรไม่ค่อยได้ ขี้หลงขี้ลืม บางทีคิดอะไรไม่ค่อยออก หรืออาการอย่างหนักอาจจะเป็นโรคอัลไซเมอร์ เป็นต้น
ความเครียดเหล่านี้สามารถกำจัดออกด้วยวิธีง่ายๆ เช่น การออกกำลังกาย การทำสมาธิ การทำกิจกรรมต่างๆที่ชื่นชอบ การรับประทานอาหารอร่อยๆ เป็นต้น นอกจากจะสามารถทำให้ความเครียดต่างๆลดน้อยลงแล้วมันยังเป็นสามารถทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและตื่นตัวมากขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตามความเสื่อมของร่ายกายที่ผันไปตามกาลเวลาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ความเสื่อมสภาพของเซลล์ประสาทในสมองสามารถก่อให้เกิดผลกระทบต่อสมองโดยตรง มันอาจจะทำให้คุณเกิดภาวะต่างๆ เช่น ความสามารถในการเรียนรู้น้อยลง เป็นต้น
มีการศึกษาหลายชิ้นที่บ่งชี้ว่า สมุนไพรหลายชนิดสามารถเพิ่มจำนวนของเซลล์ประสาทในสมอง กระตุ้นการทำงานของพวกมัน และยังส่งผลให้การทำงานของเซลล์ประสาทในสมองทำงานดีดีขึ้น ทำให้ผู้บริโภคเข้าไปสามารถใช้งานสมองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น เรียนรู้และจดจำสิ่งต่างๆได้ดียิ่งขึ้น ฤทธิ์ของสมุนไพรเหล่านี้ไม่เพียงจะดีต่อคนวัยทำงานเท่านั้นแต่มันยังดีต่อเด็กๆและผู้สูงอายุอีกด้วย
วันนี้เราได้จัด 5 อันดับยอดสมุนไพรที่สามารถปลดล็อคพลังที่หลับไหลในสมองของคุณได้
1. พรมมิ
พรมมิ (Bacopa monnieri) เป็นพืชที่เติบโตในพื้นที่เปียกและเป็นแอ่งน้ำทั่วเอเชียใต้ พรมมิถูกใช้เป็นยาอายุรเวทเพื่อรักษาโรคต่างๆ รวมถึงความวิตกกังวล นอนไม่หลับ และปัญหาด้านความจำ [1]
สารสำคัญหลักๆที่ออกฤทธิ์ คือ สารในกลุ่ม Saponin glycoside (jujubogenin และ psuedojujubogenin glycosides) โดยสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ได้อย่างโดดเด่น คือ Bacoside I ซึ่งมีคุณสมบัติในการป้องกันระบบประสาท เพิ่มการรับรู้ กระต้นการสร้างเซลล์ประสาทใหม่ [2, 3]

ณ ปัจจุบัน เราพบการศึกษามากมายหลายชิ้นที่แสดงให้เห็นว่า พรมมิ สามารถช่วยเพิ่มการทำงานของสมองและความตื่นตัว ยกตัวอย่างเช่น การศึกษาการวิเคราะห์อภิมาน (meta-analysis) ของพรมมิในมนุษย์พบว่า การรับประทาน สารสกัดพรมมิ ประมาณ 300 mg ต่อวัน สามารถเพิ่มการทำงานของสมอง (cognitive function) โดยเฉพาะความเร็วในการประมวลผลข้อมูลและการตอบสนอง [4]
นอกจากการรับประทาน พรมมิ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสมองได้ มันยาสามารถช่วยปรับสมดุลการทำงานของการหลั่งฮอโมนในสมองอีกด้วย ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ป่วยโรคซึมเศร้าครับ ยิ่งไปกว่านั้นเราพบว่าการรับประทานสารสกัดพรมมิอาจจะสามารถเพิ่มระดับในเลือดบางชนิดที่ใช้รักษาโรคซึมเศร้า เช่น Amitriptyline (อะมิทริปไทลีน) เป็นต้น [5]
การรับประทาน สารสกัดพรมมิ โดยทั่วไปถือว่ามีความปลอดภัยมากครับ เราสามารถพบเห็นผลข้างเคียงเล็กน้อยในระบบทางเดินอาหารของผู้สูงอายุเมื่อกินพรมมิเป็นเวลานาน 3 เดือน เข่น อุจจาระบ่อยขึ้น, คลื่นไส้, และตะกริวหน้าท้อง เป็นต้น [6]

ถึงแม้ว่าทางงานวิจัยอาจจะยังไม่มีหลักฐานชิ้นใดสามารถอธิบายสาเหตุของอาการเหล่านี้ได้ แต่ตามหลักวิชาของแพทย์แผนไทยได้ระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่า พรมมิ มีรสยาที่ขม (เย็นเล็กน้อย) [7] ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการกำเริบของธาตุลม คือ ลมในไส้น้อยและไส้ใหญ่ (พระคัมภีร์วรโยคสารทางแพทย์แผนไทย) ดังนี้จึงเป็นเหตุให้คนที่รับประทานพรมมิเป็นเวลานานอาจจะเกิดผลข้างเคียงในระบบทางเดินอาหาร เช่น การอุจจาระบ่อยขึ้น เป็นต้น
“พรมมิ มีสาระสำคัญอยู่ในกลุ่ม Triterpenoid saponins glycoside ซึ่งรู้จักกันดีในชื่อ Bacosides สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองและเพิ่มความจำได้”
2. แป๊ะก๊วย
แปะก๊วย (Ginkgo Biloba) ใช้เป็นยารักษาโรคสมองเสื่อมมาเป็นเวลานาน เป็นยาที่ใช้กันทั่วไปในการแพทย์แผนจีน (TCM) และเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องประโยชน์ของมัน….แปะก๊วยอาจจะเพิ่มการทำงานของสมองในส่วนการเรียนรู้โดยการกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตเพื่อเข้าไปเลี้ยงสมอง [8]

แม้ว่าการวิจัยเกี่ยวกับ แปะก๊วย ให้ผลลัพธ์ที่หลากหลาย แต่ก็มีหลักฐานว่าสมุนไพรนี้สามารถเพิ่มการทำงานของสมอง (cognitive function) ในผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ และผู้ป่วยที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา (ระดับเล็กน้อย) [8]
นอกจากนี้ การทบทวนงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Alzheimer’s Disease in 2015 ชี้ให้เห็นว่าสารสกัดจากแปะก๊วยที่เรียกว่า EGb761 อาจมีประโยชน์มากในการชะลอความเสื่อมของสมองส่วนการรับรู้ในผู้ป่วยที่มีอาการทางระบบประสาทนอก และผู้ป่วยที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาและภาวะสมองเสื่อม [9]
“แปะก๊วย คือ สมุนไพรที่กันมาอย่างยาวนานในวงการแพทย์แผนจีน ซึ่งมีสรรพคุณที่โดดเด่น คือ การเพิ่มการทำงานของสมองและเพิ่มการไหลเวียนโลหิตเพื่อเข้าไปเลี้ยงสมอง”
3. บัวบก
บัวบก หรือ Gotu Kola (Centella asiatica) ถูกนำมาใช้ในระบบยาแผนโบราณเพื่อช่วยเพิ่มการทำงานของสมอง นอกจากนี้บัวบกยังเป็นประโยชน์ต่อการตื่นตัวอีกด้วย

การศึกษาเชิงคลินิกในอาสาสมัครสูงอายุ พบว่า การรับประทานสารสกัดบัวบก 750 mg ต่อวัน เป็นเวลา 2 เดือนติดต่อกัน สามารถพัฒนาการด้านความจำ ความตื่นตัว และควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับประทานสารสกัดบัวบก [10]
นอกจากนี้เรายังพบอีกว่า การรับประทานสารสกัดบัวบกในปริมาณ 500-750 mg ต่อวันในผู้สูงอายุสามารถเพิ่มความแข็งแรงของร่างกายเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับประทาน [11]
ยิ่งไปกว่านั้น การรับประทานสารกสัดบัวบก 1000 mg ต่อวันเป็นเวลา 2 เดือนติดต่อกัน สารมารถลดความวิตกกังวล และอัตราความเมื่อยล้าทางจิตใจ เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับประทาน [12]
“บัวบก เป็นสมุนไพรที่อาจช่วยเพิ่มความจำ ความตื่นตัว และสภาวะทางอารมณ์ได้ นอกจากนี้ยังอาจช่วยเพิ่มความแข็งแรงและการทำงานของร่างกายในผู้สูงอายุ”
4. หญ้าฝรั่น
หญ้าฝรั่น (Crocus sativus) มาจากเกสรตัวเมียของดอกส้มในฤดูใบไม้ร่วง มักใช้ในการตกแต่งจานต่างๆ เช่น ข้าวแซฟฟรอนและปาเอยาสเปน เป็นต้น หญ้าฝรั่นมีประวัติการใช้ในระบบยากรีกโบราณ อียิปต์ เปอร์เซียและอินเดียมาอย่างยาวนาน เพื่อเพิ่มการทำงานของสมอง ตับ และปอด [13]

การวิจัยในปัจจุบันยังคงระบุถึงการใช้สมุนไพรนี้ในการเสริมสร้างความจำและประสิทธิภาพของสมอง นอกจากนี้มันยังช่วยลดอายุของสมอง เพิ่มความสามารถในการโฟกัสสิ่งต่างๆ รวมไปถึงยังสามารถเพิ่มการควบคุมอารมณ์ [13]
จากการทบทวนวรรณกรรมพบว่า หญ้าฝรั่นและส่วนประกอบทางเคมีต่างๆ ของหญ้าฝรั่นสามารถเพิ่มการเรียนรู้และความจำได้ ซึ่งนักวิจัยยังบอกต่ออีกว่า หญ้าฝรั่นมีผลดีต่อระบบประสาทอีกด้วย [14]
“หญ้าฝรั่น คือ เกสรตัวเมียของดอกส้ม ซึ่งใช้เป็นยาแผนโบราณเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง เพิ่มการเรียนรู้ และการควบคุมอารมณ์”
5. โสมเกาหลี
โสมเกาหลี (Panax ginseng C.A. Meyer) เป็นสมุนไพรยอดนิยมในเกาหลี มีสรรพคุณโดดเด่นในการให้พลังงาน และฤทธิ์ในการกระตุ้นการทำงานของสมอง นั้นจึงทำให้โสมเกาหลีเป็นที่ต้องการมากในหมู่นักกีฬาและอีกหลายๆกลุ่ม [15]

โสมเกาหลีอุดมไปด้วยสารประกอบทางเคมีธรรมชาติต่างๆ ได้แก่ ginsenosides, eleutherosides และ ciwujianosides ซึ่งเชื่อกันว่าให้โสมเกาหลีมีประสิทธิภาพและฤทธิ์การให้พลังงาน [15]
ในการศึกษาเชิงคลินิก พบว่า อาหารเสริมที่ประกอบด้วยโสมเกาหลีสามารถเพิ่มสมรรถภาพทางกายภาพ เพิ่มความกระฉับกระเฉง ลดความเหนื่อยล้าของร่างกาย ที่สำคัญ คือ เพิ่มความตื่นตัวของสมอง [15]
การรับประทานโสมเกาหลีในปริมาณ 200-1000 mg ต่อวัน พบว่า ร่างกายกระฉับกระเฉงขึ้น มีสมาธิในการทำงานมากขึ้น และสภาวะทางอารมณ์ดีขึ้น [16, 17]
อย่างไรก็ตาม เราพบผลข้างเคียงหลังการรับประทานโสมเกาหลี คือ นอนไม่หลับ ท้องร่วง อัตราการเต้นหัวใจ และความดันโลหิตเพิ่มขึ้น ซึ่งฤทธิ์ดังกล่าวอาจจะสามารถนำมาใช้แทนยารักษาโรคซึมเศร้า และโรคหัวใจได้ [15]
“ตามการศึกษาวิจัย โสมเกาหลีมีสารประกอบที่อาจช่วยเพิ่มความตื่นตัวและสมาธิในการทำงาน”
ผู้เรียบเรียง: พรหมวิหารคลินิก
๑๓ กันยายน ๒๕๖๔
——————————————————————————————-
อ้างอิง
- Suliman, N.A. and C.N. Mat Taib, Establishing Natural Nootropics: Recent Molecular Enhancement Influenced by Natural Nootropic. Evid Based Complement Alternat Med, 2016. 2016: p. 4391375.
- Saesong, T., P. Nangngam, and K. Ingkaninan, Pharmacognostic and physico-chemical investigations of the aerial part of Bacopa monnieri (L.) Wettst. Songklanakarin Journal of Science and Technology, 2019. 41: p. 397-404.
- Aguiar, S. and T. Borowski, Neuropharmacological review of the nootropic herb Bacopa monnieri. Rejuvenation Res, 2013. 16(4): p. 313-26.
- Kongkeaw, C., et al., Meta-analysis of randomized controlled trials on cognitive effects of Bacopa monnieri extract. J Ethnopharmacol, 2014. 151(1): p. 528-35.
- Khurshid, F., et al., Effect of herb-drug interactions of Bacopa monnieri Linn. (Brahmi) formulation on the pharmacokinetics of amitriptyline in rats. Brazilian Journal of Pharmaceutical Sciences, 2018. 53.
- Morgan, A. and J. Stevens, Does Bacopa monnieri improve memory performance in older persons? Results of a randomized, placebo-controlled, double-blind trial. J Altern Complement Med, 2010. 16(7): p. 753-9.
- สมาคมโรงเรียนแพทย์แผนโบราณ. ประมวลสรรพคุณยาไทย (ภาคหนึ่ง) ว่าด้วยพฤกษชาติ วัตถุธาตุ และสัตว์วัตถุนานาชนิด. สมาคม โรงเรียนแพทย์แผนโบราณ. สำนักวัดพระเชตุพนธ์. พระนคร. ๒๕๐๗.
- Yang, G., et al., Ginkgo Biloba for Mild Cognitive Impairment and Alzheimer’s Disease: A Systematic Review and Meta-Analysis of Randomized Controlled Trials. Curr Top Med Chem, 2016. 16(5): p. 520-8.
- Tan, M.S., et al., Efficacy and adverse effects of ginkgo biloba for cognitive impairment and dementia: a systematic review and meta-analysis. J Alzheimers Dis, 2015. 43(2): p. 589-603.
- Wattanathorn, J., et al., Positive modulation of cognition and mood in the healthy elderly volunteer following the administration of Centella asiatica. J Ethnopharmacol, 2008. 116(2): p. 325-32.
- Mato, L., et al., Centella asiatica Improves Physical Performance and Health-Related Quality of Life in Healthy Elderly Volunteer. Evid Based Complement Alternat Med, 2011. 2011: p. 579467.
- Jana, U., et al., A clinical study on the management of generalized anxiety disorder with Centella asiatica. Nepal Med Coll J, 2010. 12(1): p. 8-11.
- Bian, Y., C. Zhao, and S.M. Lee, Neuroprotective Potency of Saffron Against Neuropsychiatric Diseases, Neurodegenerative Diseases, and Other Brain Disorders: From Bench to Bedside. Front Pharmacol, 2020. 11: p. 579052.
- Khazdair, M.R., et al., The effects of Crocus sativus (saffron) and its constituents on nervous system: A review. Avicenna J Phytomed, 2015. 5(5): p. 376-91.
- Sellami, M., et al., Herbal medicine for sports: a review. J Int Soc Sports Nutr, 2018. 15: p. 14.
- Reay, J.L., A.B. Scholey, and D.O. Kennedy, Panax ginseng (G115) improves aspects of working memory performance and subjective ratings of calmness in healthy young adults. Hum Psychopharmacol, 2010. 25(6): p. 462-71.
- Kim, H.G., et al., Antifatigue effects of Panax ginseng C.A. Meyer: a randomised, double-blind, placebo-controlled trial. PLoS One, 2013. 8(4): p. e61271.
