๙ ข้อของการเล่นว่านให้ก้าวหน้า ไม่หลงประเด็น

จากมุมมองของ คนที่เล่นว่านมาราว ๒๕ ปี และเล่นอย่างจริงๆจังๆแบบเต็มรูปแบบราว ๑๕ ปี ผมเห็นภาพว่าน ว่ามีมิติที่แยบคาย โดยผสมผสานความเป็นวิทยาศาสตร์ ไสยศาสตร์ จิตศาสตร์ สังคมศาสตร์ และอื่นๆไว้อย่างลงตัวในสัดส่วนของส่วนผสมที่แล้วแต่ละกลุ่มบุคคลจะชื่นชอบกันไป…

๙ ข้อของการเล่นว่านให้ก้าวหน้า ไม่หลงประเด็น

การเล่นว่านให้ก้าวหน้าประกอบด้วย

ครูผมสอนว่า การเล่นว่านให้ได้ “ขาดตัว” ต้องมีดังต่อไปนี้ ….

๑. ความศรัทธาและเข้าใจในวิชาแพทย์แผนโบราณ : ว่านหลายตัวแพทย์แผนโบราณรู้จัก แต่ทั่วไปไม่รู้จัก เช่น ว่านพันชน

๒. เข้าใจมิติสังคมไทยโบราณ รู้ขนบธรรมเนียมการสอนและการต่อมือต่อวิชาของคนโบราณ : ว่านหลายต้นเช่นว่านทางไสยศาสตร์ ว่านตามสายอย่าง ว่านอ้ายไผ่เหล็ก คงกลางดอน ก็มีเฉพาะศิษย์ในบางสำนักที่รู้ตัวจริงของว่านที่บังกันเอาไว้

๓. เป็นนักเกษตรและนักพฤกษศาสตร์ที่ไม่ผูกขาดในความรู้ที่ตนเคยเรียน เป็นผู้ที่แม้เป็นกบในสระจ้อยก็ไม่ยอมเป็นกบในกะลา : อย่างว่านจูงนางทั้งหลาย อึ่ง แมงมุม กบ เขียด พระฉิม งูง่าว กลิ้งกลางดง อีเฒ่าหนังหยาบ สุดท้ายก็ตัดกันที่ความรู้เชิงพฤษศาสตร์ เช่น ลักษณะของฟอร์มดอก เป็นต้น

๔. เข้าใจในหลักโหราศาสตร์ : ว่านหลายตัวมีหลักปลูกเรื่องฤกษ์ยาม ซึ่งลึกซึ้งและแยบคายมากกว่าที่มีการอ้างอิงกันบ่อยๆ

๕. เรียนรู้เข้าใจในไสยศาสตร์ประยุกต์อย่างไทย ตลอดจนหลักพุทธศาสนาอย่างไทย : ชนิดขั้นเรียนจำ ทำได้ คือถ้าบอกว่าเก่งว่าน เล่นว่านแต่ปฏิเสธไสยศาสตร์ ไม่เคยครอบมือเป็นศิษย์สำนักไหน ผมจะคุยด้วยในข้อมูลอีกแบบหนึ่งที่พื้นๆ “อยู่ข้างในดั่งช้างสามศอก เอาออกนอกเหลือหมากคำเดียว” เพราะว่านแยกจากยาตรงที่วิชาว่านผนวกไสยศาสตร์เข้าไว้ด้วยอย่างมีที่มาที่ไป

๖. เป็นนักปฏิบัติ มิใช่เพียงเป็นนักอ่านตำรา : พวกอ้างว่ามีตำราเก่าครบ แล้วตีตำราตามใจตัวเอง โดยขาดครูแนะนำ พวกนี้พื้นฐานการสืบตำราโบราณไม่มี ตำราโบราณมีหลัก มีแยบคายการเขียนการ การคัดลอก การถ่ายทอด มิใช่จะอ่านแล้วเรียนจำทำได้และเข้าใจโดยไม่มีครู

    • “กุ้งนอนเฟย จดสลับหน้า ตัวข่มตัวสับ” รู้จักไหม?
    • การบังคาถารู้จักไหม?
    • หัวหญ้าชันอากาศเข้าใจแท้จริงแล้วหรือ? ว่าลักษระที่ตำราชี้คืออย่างไร
    • ใบข้าว ใบหอก ใบผักบุ้งมีหลักเช่นใด?

๗. มีครูดีคอยแนะนำสั่งสอน : เพราะเมื่อมีครูที่รู้จริงคอยแนะนำสามารถลดเวลาได้นับสิบปี และว่านบางตัวสืบทอดเฉพาะกลุ่ม บันทึกในตำราเพียงกันลืม ตำราสมัยก่อนอย่างสมุดข่อยนั้นจดจารยากจึงต้องจดเฉพาะเนื้อๆ ไม่นิยมระบุรายละเอียดเชิงลึก หรือไม่บันทึกเพราะบางอย่างดีมากจึงเก็บไว้เป็นไม้ตายเพื่อให้สำนักหรือศิษย์คงความรุ่งเรืองได้

เช่นเดียวกับสูตรลับของขนมที่ทำขายย่อมต้องปิดบังกันไม่งั้นคนอื่นก็เลียนแบบมาแข่งกันหมด หรือว่านนั้นอาจให้ผลทางร้ายแก่ตัวเองหรือผู้อื่นหากขาดความเหมาะสมถึงแยบคายในการใช้ได้ อย่างเช่น ว่านโพลง ตัวใส่ใจแก้(ยาสั่ง)….

การเอาตำรามาอ่านๆ โดยไม่เคยเรียนในสำนักใดจริงๆจังๆแล้วมโนกันไปจึงเป็นการ “วนลูป” ที่หาจุดจบไม่ได้ และนับเป็นเรื่องอันตรายที่เสี่ยงจะทำให้ข้อมูลผิดเพี้ยนไปมากขึ้นๆ

๘. มีว่านแท้เป็นของตนเอง เคยปลูก ดูแล ตลอดจนใช้เป็นที่ประจักษ์ : ข้อนี้สำคัญมาก เพราะถ้าไม่ลงมือปลูกเองจะไม่เข้าใจธรรมชาติของว่าน การแยก การแปรผันได้ของว่าน นั่นหมายความว่าหากปลูกหรือเรียนรู้จากหลายแหล่งว่านจะเข้าใจ “การตีกันของข้อมูล” ได้ง่ายขึ้น จะรู้ว่าจักรพรรดิกับห้าร้อยนางชนิดหัวอ้วนสัมพันธ์กันอย่างไร พญาว่านทำไมมีหลายต้น กวักพุทธเจ้าหลวงทำไมมีหลายต้นและควรเล่นต้นไหน?

มะกล่ำดำ
มะกล่ำดำ พืชที่จัดเป็นว่านชื่อหนึ่งในตำราคือ “ว่านพระดำ” เป็นตัวบังที่ใช้ทำผงว่าน ๑๐๘ ซึ่งมีสูตรและกรรมวิธีการใส่เฉพาะ รู้กันในสำนัก (เป็นพืชมีพิษมากถ้าไม่รู้จริงอย่าใส่ครับ)

ที่สำคัญอย่างยิ่งยวดคือรู้จักใช้ว่านให้เป็น ซึ่งวิธีที่แยบคายในการใช้มักจะสืบกันแบบต่อมือ เรียนตามพ่อ ก่อตามครูในสำนักครับ “ตัวว่านนั้นหาง่าย แต่แยบคายสิหายาก” อย่างการทำผงว่านร้อยแปด จะต้องเข้าใจว่านบังคับ ว่านหลัก-ว่านรอง ว่านคุม ว่านกระตุ้น ว่านดับ ว่านล้าง ว่านปิด-ว่านบัง ส่วนที่ใช้ ส่วนที่ไม่ใช้ วิธีตัด วิธีคืน(ชุบ) วิธีผสม วิธีผสาน คาถาในแต่ละขั้น มีดที่ใช้ตัด ฯลฯ หรืออย่างชักมดลูก จะตีลายแทงกันทำไม? ทำไมไม่ไปถามหมอยา แล้วจะได้รู้ว่าเขาใช้กันมาได้ผลนานนมแล้ว * ก็มีหลายตัวกว่าที่จดๆลอกๆแล้วเอามาเถียงกันนั่นแหละ…

ก็พิจารณากันไปครับ ยุคนี้ข้อมูลเข้าถึงง่าย มีค่าบ้างไม่มีค่าบ้างเลือกเฟ้นกันให้จงดี บัณฑิตย่อมเลือกกินมังคุดแต่เนื้อในครับ ^ ^

๙. หนักแน่นเข้าไว้อย่าหลงไปเล่นไม้นอก: สำหรับผม การที่คนเคยเล่นว่าน แล้วทำไม่สุด แล้วเบื่อว่านแถมอ้างว่าว่านไม่เห็นให้ผลอะไรดีๆดังตำราเลย สุดท้ายก็ไปเล่นไม้นอกแทนผมกล้าบอกได้เลยว่า เพราะความมุมานะของคุณนั้นไม่พอ ทำอะไรต้องทำให้สุดๆครับ มันเป็นการฝึกนิสัยของคุณให้หนักแน่นอดทนและไม่ย่อท้อ ซึ่งนั่นมันคือคุณลักษณะอันยิ่งยอดของผู้ประสบความสำเร็จทั้งหลายครับ … “ถ้าคิดจะบ้า ก็บ้าก็คลั่งให้สุดๆครับ”

ปกติ “วงรอบ” ของวงการว่านก็จะประมาณนี้ครับ ซึ่งเคยเกิดมาแล้วหลังยุคว่านบูม ปี ๒๕๒๒

เล่นว่าน --> ว่านป่ามาตัดราคา / ตั้งชื่อว่านใหม่ -->  หมดหวังจากว่านเลยไปเล่นเสน่ห์จันท์ทั้งที่ใช่และไม่ใช่ว่าน --> เล่นบอนสี --> วงการว่านซบเซา ไม้นอกไม้ด่างมาแทนที่ – – – – – > ว่านกลับมาบูมอีกครั้ง พร้อมทั้งลักษระต้นว่าน และชื่อว่านที่ผิดเพี้ยนไประดับหนึ่ง

แน่นอน…ถ้าปล่อย cycle ให้เป็นเช่นนี้ต่อไป นานหลายๆรอบ อนาคตอันไกล “ว่าน” จะกลายเป็นตำนานที่จับต้องไม่ได้ …

“กลุ่มบ้านว่านไทย” ซึ่งนำโดย อ.ณรงค์ศักดิ์ ค้านอธรรม จึงได้ออกมาลงทุนลงแรงและทุ่มเทเวลาในการอนุรักษ์ และรักษาขนบการเลี้ยงว่านอย่างโบราณโดยตลอดเสมอมา…ชีวิตมันแสนสั้น แต่ผลงานของชีวิตนั้นยาวนาน… เราเพียงแค่อยากส่งต่อมรดกทางวัฒนธรรมอันโดดเด่นนี้ ให้ไปถึงมือลูกหลานในอนาคต…

เอวัง…..

อรรถ
๑๓ พ.ค. ๖๑ เขียนเพิ่มเติม ๒๘ ม.ค.๖๔

* หมายเหตุ: ช่วงที่ผู้เขียน เขียนบทความนี้ครั้งแรก (ปี ๖๑) มีการถกเถียงกันในวงกว้างเกี่ยวกับว่านชักมดลูกจนเลอะเทอะไปหมด ซึ่งจริงๆแล้วตามต้นนี้ไม่ยากเลย ก็ไปตามจากแพทย์แผนโบราณก็จบ…