จากประสบการการเล่นว่านมานานกว่า ๒๕ ปี และผ่าน cycle ของวงรอบว่านซบเซา ก่อร่าง และกลับมานิยมอีกครั้งมาแล้ว จึงเห็นสาเหตุของปัจจัยดังกล่าว ซึ่งเหล่านี้อาจเป็นคำตอบในแง่มมุมต่างๆ ดังนี้ครับ
สารบัญ: คลิ๊กเลือกอ่าน
สาเหตุที่ทำให้คนเลิกเล่นว่าน
ผมพยาม list รายการมาเพื่อให้คนเข้าใจและพยามหลีกเลี่ยงสาเหตุดังกล่าว ดังต่อไปนี้ครับ
1. ไม่เป็นไปตามความคาดหวัง
เช่น เล่นว่านเชิงเสน่ห์ ว่านกลุ่มดอกทอง แล้วอะไรๆยังเหมือนเดิม เล่นว่านคงกระพันแล้วยังได้เลือด เล่นว่านเศรษฐีแล้วยังจน ฯลฯ เพราะจริงๆว่านไม่ใช่ขนมฉีกซองหรือแกงแกะ(ออกจากถุง) ที่จะพร้อมใช้พร้อมทานเลย ว่านเหมือนข้าวที่ต้องหุงจึงจะกินได้ คือต้องเศกต้องเลี้ยงตามตำรา และอีกประการคือ ว่านที่คุณได้มาพื้นฐานทางกายวิภาคคือลักษณะว่านอาจไม่ใช่สายพันธ์ที่เศกยัดวิชาได้ง่ายๆ เพราะอาจเป็นว่านระดับรองๆที่ฤทธิ์พื้นฐานอ่อนมาตั้งแต่แรก

2. งงกับข้อมูล แต่ละตำรามันฟันธงไม่ได้ ไม่รู้จะจับตรงไหน
โดยเฉพาะนักเล่นว่านที่ติดแหง็กอยู่กับตำราเก่า แต่ไม่เคยยกครูเรียนว่าน หรือยกครูเรียนอย่างโบราณ … ก็เพราะตำราหลายเล่มทีเดียว เกิดจากการคัดลอกปับสา สมุดข่อย ใบลาน หนังสือก้อม จากหลายๆที่มาลงไว้ด้วยกัน
ซึ่งในบางครั้งว่านต่างท้องที่ ที่มีชื่อเดียวกันแต่เป็นคนละต้น ก็จะถูกนำมาใส่ไว้ด้วยกัน ทำให้ข้อมูลดูขัดๆย้อนแย้งกันได้ประการหนึ่ง (อย่างว่านกำแพงเจ็ดชั้นครับคือกลุ่มสาคูต้นหนึ่งหัวบำรุงกำลัง กับอีกต้นคือกลุ่มทิพย์เนตรใช้ป้องกัน) อีกประการหนึ่งด้วยภาษาที่เขียนเป็นแบบกระชับ เพราะการจารจดในใบลาน หรือสมุดข่อยนั้นทำได้ค่อนข้างยาก ตรงไหนที่รู้ๆกันแล้วในสำนัก หรือต้องการบังไว้ก็จะไม่จด หรือจะจดแยกเล่มครับ
ดังนั้นคนที่ไม่เคยเรียนในสำนักจึงเสียเปรียบมากเพราะจะวนหลูปอยู่กับข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์เหล่านี้…ดังนั้นเรียนว่านต้องมีครู และเป็นครูที่เก่งด้วยไม่งั้นเสียเวลาไปกับการตีความในหนังสืออีกนานครับ…
3. ดราม่าเยอะ
ซึ่งมักสืบเนื่องจากข้อสอง… ครั้งหนึ่งหนังสือตำราเก่าเกี่ยวกับว่านของ “กลุ่มบ้านว่านไทย” ได้หลุดลอดไปในวงกว้าง ทำให้เกิดเซียนว่านหน้าใหม่ที่มาตีตำรา ตีต้นว่านกันสะเปะสะปะไปหมด เป็นยุคดราม่าเรื่องว่านเลยก็ว่าได้…
สุดท้ายคนเหล่านั้นหลายๆคนก็ยอมแพ้หรือเข้าใจกระบวนการเล่นว่านที่ลึกซึ้งขึ้น ส่วนหนึ่งก็จัดเป็นเรื่องดี ทำให้วงการว่านคึกคักและเผยแพร่เป็นวงกว้าง แต่ส่วนหนึ่งคือทำให้วงการว่านแตกแยกและเสียเวลามาก เพราะเที่ยวตามหาว่านในตำรา จนว่านที่ใช้ๆอยู่ในปัจจุบันที่ได้ผล กลับถูกปล่อยทิ้งไม่อนุรักษ์หรือทำให้เขาเกิดผลลัพธ์ดังตำราว่าไว้…(ถ้าจะหาว่านเหนือโลกตามตำรา สู้เอาเวลาไปเศกเลี้ยง รดน้ำว่านจะดีกว่านะผมว่า)
4. ขายไม่ออก ราคาตก
อันนี้มักจะเกิดจากคนที่เล่นว่านเพราะปัจจัยหลักคือ เห็นว่าเป็นกลุ่มต้นไม้ที่ราคาดี ..แต่ในความเป็นจริงแล้ว ว่านมันมีต้นทุนของมันที่ซับซ้อน ตลอดจนใช้พลังงานในการทำการตลาดสูงมาก …. (ในมุมนักลงทุนจริงๆไม่คุ้มครับ)
ถามว่าผมเลี้ยงว่านมาผมขายว่านพอค่าจ้างแรงงานไหม หรือได้กำไรไบ้างไหม..คำตอบคือ ขาดทุนทุกปีครับ แต่กำไรที่ได้มาในรูปแบบอื่น คือกำไรชีวิต ตลอดจนเรื่องของการได้รับพลังบางอย่างที่สนับสนุนเราให้ทำอะไรแม้มีอุปสรรคก็จะผ่านพ้นไปได้.. ผมเล่นว่านไม่ได้รวยเพราะขายว่าน แต่รวยมีกินมีใช้เพราะปลูกว่าน..เพราะมีแรงว่าน แรงครูช่วยสนับสนุนในทุกๆเรื่องครับ…
5. ขาดเพื่อนที่จริงใจในการเล่น
เกมบางเกมส์เวลาเล่นต้องมีเพื่อนเยอะๆถึงจะสนุก การเล่นว่านก็เช่นกัน และต้องเป็นเพื่อนที่จริงใจด้วยคือเวลามีว่านดีก็แบ่งปันกันไม่หวง เพราะเอาเข้าจริงว่านเป็นพืชที่ตายง่ายมาก ถ้าเรามัวแต่หวงไว้เมื่อสักวันหลุดมือ(ว่านตาย) เราก็จะหาว่านต้นดีๆมาทดแทนไม่ได้
แต่ทั้งนี้ว่านบางตัวที่ได้มาก็มีข้อห้ามบางอย่าง เช่น ห้ามเผยแพร่เป็นหัวสด หรือห้ามบอกตัวคาถา เว้นไว้เฉพาะคนในสำนัก อันนี้ก็ต้องเขาใจและแฟร์ๆกันด้วยครับ
6. ปลูกอย่างเดียวไม่เคยใช้เลย
… ทำให้การตระหนักรู้คุณค่า ความรักจากการสานประโยชน์ร่วมกันไม่มี มันจึงง่ายต่อการสู่ความสัมพันธ์ที่ขาดสะปั้น… หลายคนปลูกว่านแต่ไม่เคยเศกว่านเลย เวลารดน้ำก็รดไปเฉยๆไม่ได้บริกรรมคาถาเศก…
และแน่นอน ก็ไม่เคยใช้ว่านทำอะไรเลย…ทำให้ความผูกพันกับว่านน้อยมาก จึงเลิกเล่นว่านง่ายๆ ต่างจากผมซึ่งใช้ว่านบ่อยมาก และปัจจุบันก็ปรุงยาจากว่านทานกันอยู่ทั้งครอบครัว เช่น ว่านรางจืดใช้แก้พิษ ทั้งคนทั้งสัตว์ที่โดนพิษจากสารเคมี ใช้พรมมิ(บ้านผมถือเป็นว่าน) บดปั้นลูกลอนทานสองเม็ดเช้า ช่วยให้สดชื่นมีเรี่ยวแรงในเวลากลางวัน ใช้บรเพ็ดบดปั้นลูกกลอนทาน ๑-๒ เม็ดเย็นช่วยให้ทานข้าวได้นอนหลับ ใช้ว่านคออูด(ลิ้นเป็ด) แก้โรคไอเรื้อรัง
หรือเวลามีโรคอะไรผมก็กางตำราปรุงว่านทานเองเป็นเคสๆไป คู่กับยาจากแพทย์แผนปัจจุบัน ดังรูปด้านล่าง

7. อาการเงียบงันจากเพื่อนๆ
โพสท์ถามข้อมูล หรือเพื่ออยากพูดคุย แต่ไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ … นานๆ เข้าก็ลาก่องล่ะคร้า ไม่หนุกเลยปายละ… จริงๆแล้วเท่าที่สอบถามสาเหตุส่วนใหญ่ คือกลัวดราม่าครับ ไม่ไช่กลัวจากผู้ถามแต่กลัวจากผู้อ่านคนอื่นๆที่มาอ่านต่อๆกัน ซึ่งอาจจะดราม่ากันตรงนั้นหรือหลังจากนั้นก็ได้ หุหุ… .. ทางแก้คือต้องเปิดใจครับ “ให้ใจไปให้ใจมา” ครับ กรณีดราม่านี่มันเสียจิตจริงๆนะครับ ผมเองก็เคย จนเก็บตัวไปหลายรอบมาก…
อีกประการคือการโพสท์รูปถามชื่อว่าน…คือว่านว่านมันดูยากมากครับ แยกยากมากเพราะมันเหมือนๆกันไปหมด ว่านบางตัวต้องดูถึงดอกอย่างไพรขาว เพราะเมือนไพรชมพูมาก ดีที่สุดคือดูดอก ว่านบางตังต้องชิมรสครับเพราะลักษณะกับสีในหัวมันคล้ายกันมาก และนี่แหละจึงทำให้ว่านมีเสน่ห์เพราะมันเล่นยาก เหมือนกับหญิงที่เล่นตัวหน่อยๆจีบยากๆ ในความรู้สึกของผู้ชายก็จะรู้สึกถึงคุณค่าเป็นพิเศษ….
8. ว่านมีจำนวนมากขึ้น
ภาระการงานที่เพิ่มมากขึ้น ย้ายที่อยู่ หรือไปเรียนต่อที่อื่น จึงต้องลดจำนวนการปลูกว่าน หรืออาจต้องเลิกเล่นว่านไปชั่วคราว ดังกล่าวข้างต้นผมผ่านมาหมดแล้ว แต่ที่ยังเลี้ยงอยู่เพราะเป้าหมายและพรรคพวกช่วยกันพยุงเอาไว้ เรียกว่ากลุ่มเหนียวแน่นว่างั้นเถอะ วปลูกว่านต้องใช้พลังงานและความทุ่มเทมากครับ ดังนั้นต้องวางแผนดีๆ จัดสรรค์เวลาให้ดีๆครับ โฟกัสเรื่องการทำงานประกอบอาชีพและอื่นๆให้สมดุลด้วย…ปลูกว่านเอาเพลินๆ และปลูกแต่พอรับไหวครับ
สรุป
…เหตุผลข้างต้นคือเหตุผลคร่าวๆที่ผมเคยพบเจอ…แล้วเหตุผลของคุณเป็นแบบไหนกันครับ ? แล้วจะช่วยแก้ไขกันอย่างไร? เพื่อให้เกิดวงการว่านอันงดงามอบอุ่นในอนาคตครับ
* ผมลิสท์รายการมาก็เพื่อให้คนเล่นว่านยุคหลังไม่เลิกเล่นว่าน เพราะเข้าใจในเหตุปัจจัยและเตรียมการรับมือแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องมีว่านเป็นหลายร้อยรายการ ..เอาเพียง ๑๖ รายการที่ชอบที่สุดให้อยู่หมัดก็พอ ใช้ได้ผลทุกตัวก็พอเพียงแล้วครับ..
“ผมไม่กลัวคนที่ฝึกเตะ 10,000 ท่าในครั้งเดียวหรอก แต่ผมกลัวคนที่ฝึกเตะท่าเดียว 10,000 ครั้ง” บรู๊ซ ลี
เอวังฯ…รักนะจุ๊บๆ ❤️
อรรถวัติ กบิลว่าน
๔ พ.ย.๖๑ รีรันและอัพเดทบทความ ๒๙-๑ ก.พ.๖๔