ว่านนางคุ้ม ว่านหลักที่ใช้ในทางคุ้มครองป้องกันภัย
ว่านนางคุ้ม Proiphys amboinensis หรือว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน เป็นว่านที่ใช้ในทางอำนาจและป้องกันภัย ตลอดจนโรคภัยไข้เจ็บและภูตผีทั้งหลาย ช่วยป้องกันคุณไสยและเสนียดจัญไรทั้งปวงมิให้มาแผ้วพาล ว่านนี้เชื่อกันว่าเป็นว่านที่มี “แม่นางพฤกษา” สิงสถิตอยู่ ทำให้ผู้ปลูกเลี้ยงมีความร่มเย็นเป็นสุข ลักษณะหัวคล้ายหัวหอมใหญ่ ก้านและใบเหมือนผักตบชวา ก้านใบมีสีเขียวนวล ใบใหญ่กลมรี ดอกมีสีขาวเวลาออกดอกจะแทงก้านช่อดอกขึ้นพ้นเหนือใบ ในธรรมชาติจะออกดอกราวๆต้นฝน

ว่านนี้ผู้ปลูกจำนวนไม่น้อยที่มีประสบการณ์ทางด้านปาฏิหาริย์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องป้องกันโจร ป้องกันไฟไหม้ หรือแม้บางครั้งจะเห็นเป็นคนแก่นั่งอยู่หน้าบ้านในเวลาที่ไม่มีใครอยู่บ้าน จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า “ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน” เป็นว่านที่ผู้เขียนแนะนำให้หามาปลูกไว้ต้นหนึ่งครับ
ลักษณะ

หัวคล้ายหัวหอมใหญ่ ใบโตเหมือนใบอุตพิด ใบกลมใหญ่หนาคล้ายใบฟักทอง มีสีเขียวโศก มีดอกชูก้าน ดอกสีขาว มีกลิ่นหอม ก้านเขียวแก่ กอหนึ่ง ๆ มีหลายใบ
ประโยชน์
ปลูกไว้ในบ้านมีคุณป้องกันไฟได้ และยังคุ้มกันภัยอันตรายต่าง ๆ ท่านโบราณาจารย์จึงมักกล่าวไว้ว่า ผู้ใดมีว่านนางคุ้มไว้คุ้มครองในบ้านเรือนตน จึงเหมือนมีเกราะเพชรไว้ป้องกันภัยถึง ๗ ชั้นทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้หรือภัยอันตรายอย่างใด ๆ ย่อมสามารถมีอำนาจคุ้มครองป้องกันได้ทั้งสิ้น
การปลูก
ใช้ดินเผาไฟทุบแตกละเอียดดีแล้ว ตากน้ำค้างทิ้งไว้คืนหนึ่ง จึงนำเอามาเป็นดินปลูก พึงระวังอย่ากลบหัวว่านให้แน่นทึบ ควรให้หัวว่านโผล่พ้นดินที่กลบสักนิดหน่อย น้ำที่จะใช้รดควรเศกด้วยคาถา “อิติปิโสภควาถึงภควาติ” ๓ จบก่อนจึงนำมารด และรดพอเปียกชื้นเท่านั้นอย่าให้ถึงโชกโชน หัวว่านจะพลอยตายเพราะเน่าน้ำ ว่านนี้ชอบดินระบายน้ำดีไม่ชอบน้ำขัง
อีกตำราหนึ่งว่า เวลาจะเอาหัวติดตัวไปไหน ๆ ด้วยให้เศกด้วยคาถา “อุทธัง อุทโธ” ๑๐๘ ครั้ง หรือจะเศกด้วย “นะโมพุทธายะ” ก็ได้ สามารถคงทนต่อ มีด, ไม้, หอก, ดาบ, ปืน, ธนู แล
การกระตุ้นให้ว่านนางคุ้มออกดอก
ว่านนี้หากงดน้ำในช่วงฤดูแล้งสักระยะ ให้เหลือสัก ๑-๒ ใบ แล้วค่อยกระตุ้นน้ำอีกครั้ง ก็จะออกดอก และหลังจากออกดอกแล้วเขาจะให้หน่อครับ เวลาแบ่งหน่อขยายก็จะเก็บต้นแม่ไว้ แยกหน่อไว้ขยายอีกกระถางหนึ่ง
ชุดว่านสำหรับป้องกันผองภัย สำหรัลปลูกรอบบ้าน ๘ ทิศ
อ้างอิงตาม “สารานุกรมว่านไทย ฉบับสมบูรณ์” โดยในปี พ.ศ. ๒๕๒๖ ซึ่งเป็นช่วงที่การเล่นว่านเริ่มจะซบเซาแล้ว มีหนังสือที่น่าสนใจมากเล่มหนึ่งคลอดออกมาในท้องตลาด คือ “สารานุกรมว่านไทย ฉบับสมบูรณ์” โดย ทัศนา ทัศนมิตร และดำรงศักดิ์ นาคนิยม
ซึ่ง อ.ทัศนานั้นได้เคยเรียบเรียงหนังสือ “กบิลว่าน ๑๐๘” มาก่อนหน้านี้ อ.ทัศนาได้ตกผลึกความรู้ที่เข้มงวดยิ่งขึ้นและได้ครูว่านตัวจริงที่สืบทอดการเล่นว่านมาจากสายการเล่นว่านเฉพาะ ที่มีการเลี้ยงว่านอย่างเป็นศาสตร์วิชาที่เป็นระบบมาก คือ อ.ดำรงศักดิ์ นาคนิยม ทำให้หนังสือเล่มนี้มีคุณค่าในเชิงศาสตร์และวิชามาก

ในตำราเล่มดังกล่าว กล่าวถึงว่านที่ใช้ป้องกันเภทภัย ในหัวข้อเรื่อง “ว่านประเภทที่มีอำนาจ” ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด แต่จะมีชนิดที่พิเศษทั้งสิ้น ๘ ชนิด ซึ่งโบราณท่านใช้เข้าพิธีปลูกว่านรอบบ้านทั้ง ๘ ทิศ สำหรับใช้ในเชิงอำนาจและป้องกันผองภัย ได้แก่
๑. ว่านพุทธเจ้า (ปัจจุบันเรียกว่า ว่านมหาบัว) หากไม่มีอนุโลมให้ใช้ว่านพุทธเจ้าหลวง (กวักพุทธเจ้าหลวง)
๒. ว่านมหาปราบ
๓. ดาบนารายณ์ หากไม่มีอนุโลมให้ใช้ ว่านเพชรนารายณ์, ว่านดาบหลวง
๔. ว่านพญานาคราช หากไม่มีอนุโลมให้ใช้ ว่านพญากาสัก
๕. ว่านสี่ทิศ
๖. ว่านนางคุ้ม
๗. ว่านนางล้อม
๘. ว่านกุมารทอง หากไม่มีอนุโลมให้ใช้ว่านแสงอาทิตย์
ดังนั้นจะกล่าวได้ว่า ว่านนางคุ้ม จึงเป็นหนึ่งในต้นว่านที่ควรมีไว้คู่บ้านครับ…
แผ่นยันต์รองก้นหลุมว่านนางคุ้ม

ในบางสายวิชาการเล่นว่าน พบว่าการเลี้ยงว่านนางคุ้มนั้นจะทำการจารย์อักขระลงแผ่นตะกั่ว แล้วทำการปลูกเลี้ยงอย่างดี โดยกระถางว่านจะยกกระถางให้สูง เพราะเชื่อว่าว่านต้นนี้มีแม่นางคุ้มที่คอยปกปักรักษาบ้านเรือนให้อยู่เย็นเป็นสุข ซึ่งนับเป็นรูปแบบของยันต์รองก้นหลุมอีกรูปแบบหนึ่ง นอกจากยันต์พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ยันต์ ๘ ทิศ ยันต์จตุโรบังเกิดทรัพย์ ยันต์ตรีนิสิงเห ฯลฯ เป็นต้น
ว่านนางคุ้มต้นป่าและต้นบ้าน
ว่านนางคุ้มต้นบ้านนั้นคือต้นที่พบเห็นได้ทั่วไปในท้องตลาด ข้อมูลสมัยก่อนเชื่อว่าเป็นไม้นำเข้ามานานแล้ว และต่อมาได้กลายเป็นว่านเพราะมีข้อมูลบอกเล่าคล้ายกันว่า มักจะเห็นต้นว่านนี้เป็นคนแก่ คอยเฝ้าบ้าน เวลาเจ้าของบ้านไม่อยู่ จึงได้มีชื่ออีกชื่อว่า “ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน” ดังนั้นว่านนางคุ้มต้นบ้านจึงเป็นว่านที่ได้รับการพิสูจน์ยืนยันว่าใช้ได้จริงกันมาแล้ว
ส่วนนางคุ้มต้นป่า สำหรับผมแล้วมีความโดดเด่นในแง่ตำนานความเชื่อว่า ไม้นี้เป็นไม้นำเข้า แต่แท้จริงแล้วก็พบได้ในป่าประเทศไทยบางเขตพื้นที่คล้ายๆกับว่านแก้วหน้าม้าที่เคยเชื่อกันเช่นนั้น จึงเป็นสิ่งที่หาชมได้ค่อนข้างยาก เรียกว่า แรไอเท็ม ก็ว่าได้ และอย่างน้อย เราก็มั่นใจของเราว่านี่เป็นว่านที่มาจากป่าเมืองไทยจริงๆ ต้นดังกล่าวนี้ผมใช้เวลาตามนานมากกว่าจะได้ต้นที่พอใจ ซึ่งแน่นอนต้องผ่านการเลี้ยงว่าน กล่อมว่านอย่างน้อย ๑ ปี เพื่อให้ว่านมีความเป็นว่านที่ใช้งานได้เหมาะสมครับ…
จบจ้า…
อรรถ
๒๘ ก.พ.๖๔