เทคโนโลยีกับการเกษตร
ขอเปิดหัวข้อด้วย คำพูดของเพื่อนผมคนหนึ่ง ที่ผมนับถือ ครับ
“Technology ช่วยได้แต่ต้องสนุกกับการคิดค้น”
ตอนผมเริ่มมุ่งมั่นที่จะทำการเกษตรเชิงปฏิบัติ และสร้างสวนเกษตร อย่างแน่วแน่ ตอนนั้นผมต้องย้ายที่ทำงานไปในที่ต่างๆ ตามแต่หน่วยจะส่งไป หลายต่อหลายที่ด้วยกัน อาทิ อุดรธานี นครปฐม พิษณุโลก กรุงเทพฯ…
ปัญหาหนึ่งที่ยากลำบากมากคือการดูแลรดน้ำสวนว่าน และสมุนไพร คือฝากใครดูแลเขาก็มีงานของเขา…ผมจึงใช้วิธีวางระบบน้ำด้วย สปริงเกอร์ และใช้ตัว Timer ตั้งเวลา ทำให้แก้ปัญหาเรื่องนี้ไปได้
ผมค่อยๆทยอยๆทำไปเรื่อยๆ เพราะเงินเหลือจากเงินเดือนมีไม่มากนัก ซึ่งแรกๆครอบครัวผมไม่เข้าใจ เพราะการปลูกต้นไม้ของผมมันแทบไม่เกิดดอกผลหรือกำไรทางเม็ดเงินใดๆเลย
แต่สิ่งที่ได้ผมกลับมองว่ามันมหาศาลกว่าเงินทองมากมายนักเพราะมันคือ “เครื่องอยู่” ชั้นยอด ที่เหมือนมันทำให้ผมมีความหวังในการเดินหน้าต่อไป
มันก็คล้ายๆกับคนที่มีลูก ที่ไม่ว่าจะเหนื่อยยากขนาดไหนก็ไม่มีวันหมดแรงหากสิ่งนั้นคือการทำเพื่อลูก…
ในอนาคตแรงงานภาคเกษตรจะหายากและราคาแพงมากขึ้นเรื่อยๆ เทคโนโลยี สิ่งประดิษฐ์อย่างไรก็จะมาแทนที่แรงงาน ไม่ช้าก็เร็ว…รู้จักปรับตัว และพยามก้าวนำก่อนคนอื่นๆครึ่งก้าว จึงเป็นสิ่งที่แม้ภาคเกษตรก็ต้องรีบทำ…
อนาคตเมื่อมีเวลาและต้นทุนอื่นๆมากขึ้น ผมจะช่วงใช้ ปรับปรุง ประดิษฐ์ Robot มาช่วยทางการเกษตรมากขึ้น โดยไม่ทิ้งแรงงานมนุษย์ !!?? ผมว่าจุดสมดุลที่เหมาะสมมันมีครับ
ผมอยากสร้างระบบที่ “คนเหนื่อยน้อยลง แต่ผลผลิตมากขึ้น มนุษย์ควรมีชีวิต เพื่อใช้ชีวิต ไม่ควรมัวแต่ทำงานหนัก” อย่างไรผมก็ยังอยู่ในกรอบคำว่า
“บ้าน” “สวน” “สุข” สบาย” ครับ
อรรถ บ้านสวนสุขสบาย
ชายผู้ต้องการจะทำอะไรแล้ว ต่อให้ยากและใช้เวลานานขนาดไหน ก็ไม่เคยทิ้ง จนกว่ามันจะสำเร็จ… #technology-framer
๒๘ พ.ค. ๖๔