ว่านมหาเมฆ
Curcuma aeruginosa (Roxb) วงศ์ขิง (Zingiberaceae)
ว่านนี้นิยมเล่นกันมานานหลายร้อยปีแล้ว เพราะมีชื่อในทางอานุภาพมากอยู่ ทั้งหายากอยู่เหมือนกัน
ลักษณะ
ต้นแดงใบใหญ่ขนาดว่านคันทะมาลา กลางใบเป็นสีแดงเข้มตลอดไปถึงยอด ลงหัวคล้ายขิงหรือไพล เนื้อในหัวเป็นสีเขียวอ่อน หรือสีม่วงแก่แกมสีฟ้า หัวนี้ถ้าทิ้งไว้หลาย ๆ ปี จะกลายจากสีม่วงเป็นสีเหลืองไปได้ มีดอกออกเป็นพวงเหมือนดอกระกำหรือดอกคำ เวลามีดอกแล้วประเสริฐนัก
ประโยชน์
เวลาจะกินหัวว่านนี้ ให้เศกด้วยคาถา “นะโมพุทธายะ” และ “อิติปิโสภควาถึง ภควาติ” และเวลาจะเศกให้มองดูเมฆ เมื่อเวลาเมฆเข้าบังดวงอาทิตย์ จึงเศกคาถาและกินหัวว่านหรือทาตัว ยิ่งเศกได้ในวันที่มีจันทร์อุปราคาด้วยจะยิ่งดีหนักเข้า โดยพอเริ่มจับก็เริ่มเศกคาถาจนถึงมืดมิดหมดดวง จึงเอาว่านออกมาทาตัว ท่านว่าจะสำแดงอานุภาพทำให้ใคร ๆ มองมิเห็นตัว และปรารถนาสิ่งใดก็จะได้สมปรารถนาทุกประการ ถ้าได้กินว่านนี้เข้าไปด้วยจะยิ่งเพิ่มพูลอานุภาพมีกำลังเจ็ดช้างสาร หอกดาบธนูน่าไม้จะพุ่งหรือยิงมาเท่าใด ๆ มิได้ถูกต้องผิวกายให้ระคายเคืองเลยสักน้อย ในตำรายังกล่าวไว้อีกว่า เมื่อกินว่านนี้เข้าไปแล้วจะมีกำลังมากอาจถอนต้นตาลต้นยางขึ้นได้โดยง่าย แม้แต่ช้างสารก็อาจจับยกขึ้นได้ ข้าศึกศัตรูสัก ๑๐ คน ก็ไม่สามารถจะมาจับเราได้ พร้อมทั้งยังอยู่คงกระพันชาตรีอีกด้วย
ประโยชน์ทางยา ใช้หัวหั่นดองสุรากินสำหรับสตรีที่คลอดบุตรใหม่ ๆ อยู่เรือนไฟ เป็นยาช่วยรัดมดลูกให้ยุบตัวได้เร็วดี แก้การปวดและอักเสบมดลูก ทำให้มดลูกยุบตัวเข้าอู่ และยังใช้เป็นยาแก้จุกเสียดแน่นท้อง ท้องร่วงได้ดีอีกด้วย
การปลูก
ใช้ดินร่วน ๆ ปลูก โดยเอาหัวว่านวางแล้วเอาดินกลบ อย่ากดดินให้แน่น กลบดินพอให้หัวว่านโผล่พ้นอยู่บ้างนิดหน่อย เพื่อสะดวกแก่การงอกต้นอ่อน น้ำที่รดต้องเศกด้วย “อิติปิโสภควาถึงภควาติ” ๓ จบเสมอ แล้วจึงรดพอให้เปียกทั่วเท่านั้น อย่าให้น้ำโชกดิน ควรระมัดระวังในความสะอาดและสิ่งสกปรกอย่าให้ใกล้กรายว่านนี้
หมายเหตุ
ว่านชนิดนี้ ถ้าหัวเป็นสีเขียวแก่เรียกว่า ว่านมรกต ถ้ากลางหัวว่านมีจุดดำ ๆ เรียกว่า ว่านใจดำ มีสรรพคุณเช่นเดียวกับว่านมหาเมฆเหมือนกัน
บทคัดลอกจาก “ตำราคุณลักษณะว่านและวิธีปลูกว่าน” โดย สมาคมพฤกษชาติแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
รวบรวมและเรียบเรียงโดย นายเลื่อน กัณหะกาญจนะ
เผยแพร่โดย ทีมงาน www.farmssb.com