ว่านก้ามปู
ว่านก้ามปู…มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gloriosa Superba (Linn) และถูกจัดให้อยู่ในวงศ์เต็งช้างเผือก (Liliaceae) เจ้าว่านก้ามปูคนอังกฤษเขาเรียกว่า Climbing Lily
นอกจากนี้…ว่านก้ามปูยังมีอีกหลายชื่อ เช่น พันธุ์มหา (โคราช) หัวขวาน, คมขวาน, บ้องขวาน, (ชลบุรี) มะขาโก้ง (เงี้ยว) ดาวดึงส์ (ไทย) ดองดึง
ลักษณะของว่านก้ามปู
เป็นไม้เลื้อยขนาดเล็ก ใบคล้ายใบผักปราบหรือหวายลิง ปลายใบมีเส้นเล็ก ๆ ขมวดม้วนลง ต้นเลื้อยไปได้ยาวประมาณเกือบ ๑ วา ให้ดอกสวยงามมาก ดอกเป็นเส้นยาวหยิกคล้ายผมที่ถูกตัดหลุบลงมาคลุม ก้านดอกมีสีแดงกับเหลืองสีละครึ่งดอก ทำให้สลับกันกับสีเขียวของก้านจึงน่าดูมาก ออกหัวใต้ดินคล้ายผักกระจับที่ปอกเปลือกแล้ว หรือคล้ายกับหัวเป็ด มีมากตามชายทะเล ตั้งแต่ศรีราชาถึงระยอง ทางสระบุรีก็มีบ้าง
ประโยชน์ของว่านก้ามปู
ตามสรรพคุณโบราณว่า หัวแก้โรคเรื้อน, คุดราด, บาดแผลสด, และขับผายลม ตามสรรพคุณแสดงว่าหัวกินแก้ลมพรรดึก แก้เสมหะ แพทย์ตามชนบทใช้หัวกินแก้ลมจับโปง, ลมเข้าข้อ Rheumatism หัวเข่าปวดบวมได้ดีมาก บางจังหวัดใช้ต้มกินแก้ท้องขึ้นอืด ท้องเฟ้อ รากใช้เป็นยาขับพยาธิในท้องของวัวควาย และใช้ตำพอกแก้พิษงูกัด แมลงป่องต่อย และทาแก้โรคผิวหนัง แป้งที่ได้จากรากของว่านนี้แก้โรคหนองใน
การปลูกว่านก้ามปู
ใช้หัวปลูกในดินร่วนหรือดินปนทราย ก็จะงอกงามดี น้ำรดพอเปียกชุ่ม
บทคัดลอกจาก “ตำราคุณลักษณะว่านและวิธีปลูกว่าน” โดย สมาคมพฤกษชาติแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
รวบรวมและเรียบเรียงโดย นายเลื่อน กัณหะกาญจนะ
เผยแพร่โดย ทีมงาน www.farmssb.com