ว่านพญาหมอก พญาหมอก หรือพลับพลึงดอกคุด ดอกจะคุดแบบนี้นะครับ กลุ่มนี้เราแยกจากดอก ไม้กลุ่มนี้แยกจากต้นมันแยกยากมากเพราะฟอร์มใบและหัวคล้ายๆกันมาก… พญาหมอกออกดอกราวช่วงฤดูแล้ง หากให้น้ำเต็มที่ ในขณะที่ว่านกลุ่มขมิ้นลงหัว พญาหมอกก็จะออกดอก ช่วงนี้แหละครับถึงจะแยกกันได้ ๑ ปีแยกกันหนเดียว
ว่านชื่อนี้มีสองต้นคือต้นแบบต้นขมิ้น คู่กับว่านมหาเมฆ เรียกว่า “มหาหมอก” หรือพระยาหมอกก็เรียก ต่างกันที่เมื่อผ่าหัวกลาง(หัวหลัก)ตามยาว จะเห็นสีม่วงอยู่ล่างของหัว สีเหลืองนวลจะอยู่ข้างบน (มองดูคล้ายหมอก) แต่ “ว่านมหาเมฆ” สีม่วงจะอยู่ด้านบน และสีเหลืองนวลจะอยู่ข้างล่าง (มองดูคล้ายเมฆ นี่แหละครับจุดตายของว่านกลุ่มนี้)
พระยาหมอก Crinum latifolium Linn. (ต้นแบบหัวหอม)
อ้างอิงตามตำราของ อ.นพคุณ คุมา มีข้อมูลดังนี้
ลักษณะ ต้นและใบดุจพลับพลึง สีเขียวแก่ หัวเหมือนหอมหัวใหญ่ เนื้อในสีขาว ดอกดังข่าสีแดง (เข้าใจว่าตรงนี้น่าจะเป็น ดอกดั่งขาตาแดง ครับ ตำราอาจเขียนผิดหรือจงใจบังเอาไว้ เพราะดอกพระยาหมอก มองดูพริ้วๆคุดๆดังดอกข่าตาแดงมาก)
ว่านกลุ่มนี้ มีลักษณะที่คล้ายๆกันอยู่ราวๆ 5 ชนิด ดังนั้นการแยกแยะว่านนี้กับต้นอื่น เช่น ว่านสบู่หยวก ว่านพญาดาบหัก หรืออื่นๆ ต้องแยกจากดอกจึงจะชัวร์ที่สุด ทำให้ว่านนี้หาชมได้ยาก เป็นว่านเก่าที่น่าเก็บมากต้นหนึ่งเลยทีเดียว
สรรพคุณ ทางคุ้มครอง ปลูกไว้กับบ้านรดน้ำ เสกด้วยพระเจ้า 5 พระองค์ เป็นศิริมงคลป้องกันภูติผีปีศาจ เสนียดจัญไร เอาว่านหมอกนี้มาแกะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ปลุกเสกด้วย “พระอิติปิโส ธงชัยฯ” 3 คาบ ประดิษฐานไว้สักการะบูชาด้วยดอกไม้ธูปเทียนทุกวัน มีความเจริญรุ่งเรือง ปราศจากภัยพิบัติอันตรายต่างๆ ทุกประการ
หมายเหตุ ว่านชนิดนี้คล้าย ว่านสบู่หยวก มาก ต่างกันที่ ว่านพระยาหมอก กลีบดอกจะย่น แต่ ว่านสบู่หยวก กลีบดอกจะเรียบ
อิติปิโสธงชัย (อิติปิโส ๓ ห้อง)
- อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ - สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติ - สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะปุริสะปุคคะลา
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย
อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ
ระบุไว้ในตำราเก่า ได้แก่
- ชิตร์ วัฒนะ. ลักษณะว่าน. 2473, หน้า 7
- ประพัฒนสรรพกร, หลวง. ตำหรับกระบิลว่าน. 2475, หน้า 20
- ล. มหาจันทร์. คู่มือนักเล่นว่าน. 2480, หน้า 66
- ไพฑูรย์ ศรีเพ็ญ. ตำราสรรพคุณยาไทย. 2484, หน้า 82
- ชัยมงคล อุดมทรัพย์. ตำราดูว่าน และพระเครื่อง-พระบรมธาตุ. 2503, หน้า 27-28
- พยอม วิไลรัตน์. ตำรากบิลว่านและต้นไม้วิเศษนานาชนิด. 2504, หน้า 34 เรียก ว่านหมอก
- ชั้น หาวิธี. ตำราว่านวิเศษอันศักดิ์สิทธิ์. 2506, หน้า 31
- เลื่อน กัณหะกาญจนะ. ตำราคุณลักษณะว่านและวิธีดูแลว่าน. 2506, หน้า 255-256
- สวิง กวีสุทธิ์, ร.ต. ตำรากบิลว่าน. 2508, หน้า 10
- อาจารย์ญาณโชติ. คัมภีร์ไสยศาสตร์ฉบับสมบูรณ์. ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์, หน้า 1000
ราคามาตรฐานบ้านสวนสุขสบาย
150 บาทต่อกอง มีประมาณ 1-2 หัว ต้นนี้ปลูกง่ายตายยาก สายพันธ์หายากสักหน่อย ราคานี้ได้ไปคุ้มค่าครับ ประมาณ 2-3 ปี ผมถึงจะแบ่งขายครั้งหนึ่ง
ว่านพระยาหมอก
บทคัดลอกจาก “ตำราคุณลักษณะว่านและวิธีปลูกว่าน” โดย สมาคมพฤกษชาติแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
รวบรวมและเรียบเรียงโดย นายเลื่อน กัณหะกาญจนะ
เผยแพร่โดย ทีมงาน www.farmssb.com
ลักษณะ
ก้าน, ใบ, เขียวคล้ำ คล้ายกับว่านน้ำหรือใบพลับพลึง ยาว ๓-๔ ศอก สูง ๖-๗ ศอก มีดอกเหมือนดอกข่าตาแดง หัวคล้ายหัวหอม ผ่าดูเนื้อในสีขาว มีดอกกลิ่นคล้ายกลิ่นชมภู่
ประโยชน์
เวลาไปขุดเอาว่านนี้ต้องแต่งเครื่องสักการะ คือกระทงใส่ข้าวตอกดอกไม้ กุ้งพล่าปลายำพลีจงดี แล้วจึงขุดเอาหัวมาแกะเป็นรูปพระภควัมนั่งขัดสมาธิ มือบนขวาซ้ายปิดหู มือขวาต่ำปิดตา มือซ้ายต่ำปิดปาก แกะแล้วเอาอักขระ “อิทิ” ลงหน้าผาก “อะงะทิ” ลงแก้มซ้าย “อิทิอะวะงะระ” ลงหน้าอก “อันเย” ลงมือขวาข้าง ๆ “สาชิ” ลงเท้าข้าง ๆ “อิทิโอ” ลงหลัง “นะสัตกะเช” ลงที่นั่ง ลงอักขระตามนี้แล้ว นับว่าเสร็จใช้ประโยชน์ได้สารพัดอย่าง โดยเฉพาะทางคงกระพันชาตรีนั้นแน่นัก เวลาจะนำไปใช้เพื่อทำอะไรให้ปลุกเศกด้วยคาถา “นะมะพะทะ” ๓ คาบบ้าง ๗ คาบบ้าง ๙ คาบบ้าง หรือ ๑๐๘ คาบเป็นที่สุด แล้วแต่เรื่องที่จะประสงค์ยากง่ายใหญ่เล็กแค่ไหนย่อมประสิทธิผลสมความปรารถนาทุกอย่างทั้งเป็นเมตตามหานิยมด้วย
ถ้าเอาหัวว่านมาแกะเป็นพระพุทธะรูป แล้วลงด้วยคาถา “อิติปิโสวิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนะเมวิ ตินะเม พุทธะเสตังอิ อิเสตัง พุทธะปิติอิ” แล้วทำการบูชาสักการะทุก ๆ วัน ท่านว่ามีคุณวิเศษในทางโชคลาภ เสน่ห์มหานิยม และคงกระพันชาตรีอีกด้วย
การปลูก
ใช้ดินร่วนปนทราย เอามาเป็นดินปลูก แต่ต้องระวังในเรื่อง ความสะอาดปราศจากมลทินของดิน แม้มีสิ่งสกปรกเจือปนอยู่แล้ว ว่านนี้มักไม่รอดเพราะเป็นว่านชอบความสะอาดและสิ่งศิริมงคลมากเหลือเกิน การรดน้ำต้องเศกด้วย “นะโมพุทธายะ” ๓ จบ ก่อนเสมอจึงรด